*** สัญญาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส (WTI) ปิดที่ 58.64 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 68 เซนต์ หรือ 1.15% สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ทะเลเหนือ ปิดที่ 62.45 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 72 เซนต์ หรือ 1.14% ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงราว 1% ในวันอังคาร ขณะที่นักลงทุนประเมินความคืบหน้าการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซีย–ยูเครนที่หยุดชะงักไป เพื่อเปรียบเทียบกับความเสี่ยงด้านอุปทานที่คาดว่า จะเพิ่มขึ้นในตลาด *** การขนส่งพืชผลการเกษตรของสหรัฐฯ ไปยังจีน เริ่มเร่งตัวขึ้นอีกครั้ง หลังสงครามภาษีทำให้การค้าหยุดชะงักมานานหลายเดือน โดยเรือบรรทุกสินค้าเทกองอย่างน้อย 6 ลำ เตรียมเข้าเทียบท่าบริเวณ Gulf Coast เพื่อบรรทุกถั่วเหลือง ขณะเดียวกัน เรือบรรทุกถั่วเหลืองลำที่ 7 ได้ออกเดินทางไปจีนแล้วเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการส่งออกครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค. กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) ระบุว่า ผู้นำเข้าในจีน ได้ส่งคำสั่งซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ เกือบ 2 ล้านตันในเดือนพ.ย. *** รายงานจาก Adobe Analytics ระบุว่า ผู้บริโภคในสหรัฐฯ ใช้จ่ายออนไลน์ 14,250 ล้านดอลลาร์สหรัฐในวันไซเบอร์มันเดย์ ส่งผลให้ยอดขายออนไลน์รวมตลอดช่วงวันหยุดยาวเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving weekend) แตะ 44,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สมาพันธ์ค้าปลีกแห่งชาติสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ปีนี้มีผู้บริโภคออกมาจับจ่ายช่วงเทศกาล สูงเป็นประวัติการณ์ 202.9 ล้านคน เทียบกับ 197 ล้านคนในปีก่อน *** มาตรการขึ้นภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อดึงงานการผลิตกลับสู่สหรัฐฯ อาจสร้างผลลัพธ์สวนทาง โดยทำให้การจ้างงานภายในประเทศลดลง ตามความเห็นของผู้บริหารบริษัทยักษ์ใหญ่และนักวิเคราะห์เศรษฐกิจที่เริ่มแสดงความกังวลมากขึ้น ซึ่งความเห็นดังกล่าว สะท้อนชัดในผลสำรวจภาวะภาคการผลิตเดือน พ.ย. ของสถาบันจัดการด้านอุปทาน (Institute for Supply Management – ISM) ที่ผู้ตอบแบบสอบถามหลายราย ระบุถึงแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากนโยบายภาษีนำเข้า *** ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า จะประกาศตัวผู้ที่จะเข้ารับตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ต่อจากเจอโรม พาวเวลล์ ในช่วงต้นปีหน้า แม้ก่อนหน้านี้จะระบุว่า ตนเองนั้นรู้แล้วว่าจะเลือกใครมาเป็นประธานเฟด ซึ่งในการประชุมคณะรัฐมนตรี ทรัมป์กล่าวด้วยว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สก็อตต์ เบสเซนต์ ไม่ต้องการรับตำแหน่งประธานเฟด ทรัมป์กล่าวว่า ตนเองตัดสินใจได้แล้วว่าใครจะมาเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งจากพาวเวลล์ ซึ่งจะหมดวาระลงในเดือนพ.ค.ปีหน้า แต่ได้หลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามว่าบุคคลนั้นคือ เควิน แฮสเซตต์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจระดับสูง หรือไม่ *** ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่า สหรัฐฯ อาจใช้ปฏิบัติการทางทหารต่อทุกประเทศ ที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบส่งยาเสพติดเข้าสู่สหรัฐฯ โดยกล่าวว่าใครก็ตามที่ทำแบบนั้นและส่งยาเสพติดเข้ามาขายในประเทศเรา เข้าข่ายถูกโจมตีได้ คำพูดของทรัมป์นำไปสู่การตอบโต้จากประธานาธิบดี กุสตาโว เปโตร ของโคลอมเบีย โดยย้ำว่ารัฐบาลโคลอมเบียทำลายห้องปฏิบัติการผลิตยาเสพติดทุก 40 นาที โดยไม่ต้องใช้ขีปนาวุธ พร้อมแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยต่อการคุกคามด้วยกำลังทหารของสหรัฐฯ *** อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ซีอีโอของ Tesla กล่าวว่าสหรัฐฯ ได้รับประโยชน์จากบุคลากรทักษะสูงจากอินเดียเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันก็เตือนว่า มีบางบริษัทใช้โปรแกรมวีซ่า H-1B ในทางที่ผิดเพื่อประหยัดต้นทุนด้านแรงงาน โดยบริษัทเหล่านั้นใช้วีซ่าดังกล่าวจ้างแรงงานต่างชาติในราคาที่ถูกกว่าคนสัญชาติอเมริกันหลายเท่า แต่บริษัทของเขาจำเป็นต้องดึงบุคลากรจากต่างประเทศเข้ามาเนื่องจากการขาดแคลนคนเก่งจริง ๆ ในเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ปรับขึ้นค่าธรรมเนียมวีซ่า H-1B เป็น 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งส่งผลกระทบต่อแรงงานอินเดียอย่างหนัก เนื่องจากคิดเป็นกว่า 70% ของผู้ถือวีซ่าประเภทนี้ *** อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนในเดือนพ.ย.อยู่ที่ 2.2% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อน ตามตัวเลขประมาณการเบื้องต้นของ Eurostat ซึ่งตัวเลขดังกล่าวอยู่เหนือเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% ของธนาคารกลางยุโรป (ECB) เพียงเล็กน้อย Eurostat ระบุว่า หมวดบริการคาดว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้เดือนพ.ย. พุ่งสูงสุด อยู่ที่ 3.5% เพิ่มจาก 3.4% ในเดือนต.ค. ด้านเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core Inflation) ซึ่งไม่รวมราคาพลังงาน อาหาร เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และยาสูบ อยู่ที่ 2.4% ในเดือนพ.ย. ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อนหน้า ทั้งนี้ ECB คงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ 2% เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกันในการประชุมล่าสุด หลังปรับลดดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนมิ.ย. *** โกแล็ตต์ เครส (Colette Kress) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ Nvidia ระบุว่า ข้อตกลงที่ Nvidia จะลงทุนสูงสุด 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐใน OpenAI ผู้พัฒนา ChatGPT นั้นยังไม่แล้วเสร็จ โดยถ้อยแถลงของเครส มีขึ้นท่ามกลางกระแสการถกเถียงที่รุนแรงขึ้นเกี่ยวกับความร่วมมือครั้งนี้ ซึ่งเชื่อมโยง 2 ผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดในตลาดปัญญาประดิษฐ์ ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับดีลหมุนเวียนภายในระบบนิเวศ AI 
*** หน่วยบริการคลาวด์ Amazon Web Services (AWS) ของ Amazon ประกาศจะนำเทคโนโลยีสำคัญของNvidia มาใช้ในชิปประมวลผลปัญญาประดิษฐ์รุ่นถัดไป ขณะที่บริษัทเร่งขยายความสามารถเพื่อดึงดูดลูกค้า AI รายใหญ่ให้ใช้บริการมากขึ้น โดย AWS ระบุว่าจะนำเทคโนโลยีที่ชื่อว่า “NVLink Fusion” มาใช้ในชิปรุ่นใหม่ที่มีชื่อว่า Trainium4 แม้ยังไม่กำหนดวันเปิดตัวก็ตาม โดย NVLink เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเชื่อมต่อชิปหลายประเภทเข้าด้วยกันด้วยความเร็วสูง ถือเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีระดับเรือธงของ Nvidia *** ยอดส่งมอบรถยนต์จากโรงงาน Tesla ในเซี่ยงไฮ้ ปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ย. นับเป็นเพียงครั้งที่ 3 ของปีนี้ ในช่วงที่ยอดขายทั่วโลกของบริษัทยังคงเผชิญภาวะชะลอตัว โดย Tesla จัดส่งรถยนต์จากโรงงานเซี่ยงไฮ้จำนวน 86,700 คันในเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และถือเป็นตัวเลขสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของปี รองจากยอดขายส่งในเดือนก.ย. *** Ford Motor Co และ Hyundai Motor เปิดเผยยอดขายในสหรัฐฯประจำเดือนพ.ย. ลดลงเล็กน้อย เนื่องจากยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าชะลอตัวอย่างหนัก หลังรัฐบาลยุติการให้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีสำหรับรถ EV ใหม่ Ford ยังเผชิญผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ที่โรงงานของผู้ผลิตอะลูมิเนียมรายสำคัญ ซึ่งกระทบกำลังการผลิตรถกระบะไฟฟ้า F-150 Lightning ส่งผลให้ยอดขายรถ EV ของบริษัท เช่น Mustang Mach-E และ F-150 Lightning ลดลงถึง 61% เหลือ 4,247 คันในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งยอดขายรวมของ Ford ในเดือนดังกล่าวลดลงเกือบ 1% สู่ 164,925 คันจากปีก่อน ด้านยอดขายรถ EV ของ Hyundai ในรุ่นหลัก อาทิ Ioniq 5 และ Ioniq 6 ในสหรัฐฯ ต่างลดลงมากกว่า 55% ขณะที่ยอดขายรวมของบริษัทลดลง 2% *** บริษัทวิจัย IDC ระบุว่า ยอดส่งมอบสมาร์ทโฟนทั่วโลก คาดว่าหดตัว 0.9% ในปี 2026 เนื่องจากราคาชิปหน่วยความจำที่พุ่งสูง ดันต้นทุนและราคาขายเฉลี่ยทำสถิติใหม่ แนวโน้มดังกล่าวเกิดขึ้นหลังตลาดฟื้นตัวในปี 2025 ซึ่งคาดว่าจะเติบโต 1.5% สู่ระดับ 1,250 ล้านเครื่อง โดยได้แรงหนุนจากผลงานที่แข็งแกร่งของ Apple และการกลับมาฟื้นตัวของตลาดจีน Apple มีแนวโน้มสร้างรายได้จาก iPhone มากกว่า 261,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2025 เพิ่มขึ้น 7.2% จากปีก่อนหน้า *** Apple ไม่มีแผนที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลอินเดีย ที่ให้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟน ติดตั้งแอปด้านความปลอดภัยไซเบอร์ของรัฐล่วงหน้า และบริษัทเตรียมแจ้งข้อกังวลอย่างเป็นทางการต่อรัฐบาลอินเดีย หลังมาตรการดังกล่าวก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์เกี่ยวกับการสอดส่องและความเป็นส่วนตัว รัฐบาลอินเดียได้สั่งการเป็นการภายในให้บริษัทอย่าง Apple, Samsung และ Xiaomi ติดตั้งแอปชื่อ Sanchar Saathi บนสมาร์ทโฟนทุกเครื่องภายใน 90 วัน ซึ่งแอปดังกล่าวออกแบบมาเพื่อติดตามและบล็อกโทรศัพท์ที่ถูกขโมย และป้องกันการนำไปใช้งานในทางมิชอบ *** Samsung Electronics ประกาศเปิดตัวสมาร์ทโฟนพับได้แบบหลายทบ (multi-folding) รุ่นแรกของบริษัท เพื่อรักษาความได้เปรียบด้านนวัตกรรมท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงจากคู่แข่งรายใหม่ โดยสมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าว มีชื่อว่า “Galaxy Z TriFold” จะเริ่มวางจำหน่ายในเกาหลีใต้วันที่ 12 ธ.ค. ก่อนเปิดตัวในตลาดอื่น ๆ รวมถึงจีน ไต้หวัน สิงคโปร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ Galaxy Z TriFold จะมีให้เลือกเพียงรุ่นเดียว สีดำ พร้อมหน่วยความจำ 16GB และพื้นที่เก็บข้อมูล 512GB ราคาประมาณ 2,449 ดอลลาร์สหรัฐ โดยสามารถกางออกเป็นหน้าจอขนาด 10 นิ้ว เล็กกว่า iPad รุ่นที่ 11 ซึ่งมีหน้าจอ 11 นิ้ว พร้อมความละเอียด 2160 x 1584 พิกเซล *** YouTube ประกาศว่า จะปฏิบัติตามกฎหมายใหม่ของออสเตรเลีย ที่ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีมีบัญชีโซเชียลมีเดีย หลังก่อนหน้านี้ บริษัทเคยคัดค้านกฎหมายดังกล่าว เช่นเดียวกับแพลตฟอร์มยอดนิยมอื่น ๆ ที่สุดท้ายก็ยอมทำตามกฎหมายทั้งหมด บริษัทระบุว่า YouTube จะปฏิบัติตามกฎหมายและบังคับใช้ข้อจำกัดเรื่องอายุผู้ใช้งานตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 10 ธ.ค.นี้ 
|