DOHOME เผยกำไรไตรมาส 3/68 ที่ 102 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.4%YoY หลังจากการเพิ่มขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้นทุกกลุ่มสินค้า และ การบริหารจัดการต้นทุนขายที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ส่ง 9 เดือนกวาดกำไรแตะ 504 ล้านบาท

บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME เปิดเผยผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 3/68 เท่ากับ 102.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.98 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้นคิดเป็น 32.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และ มีรายได้รวมเท่ากับ 6,832.94 ล้านบาท ลดลง 672.23 ล้านบาท หรือ ลดลงคิดเป็น 9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจาก รายได้จากการขายและค่าบริการ เท่ากับ 6,752.67 ล้านบาท ลดลง 640.44 ล้านบาท หรือ ลดลง 8.7 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากการลดลงของรายได้จากสาขาเดิม และ รายได้อื่น เท่ากับ 80.28 ล้านบาท ลดลง 31.79 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 28.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากการลดลงของรายได้งบสนับสนุนจากรายได้งบสนับสนุนจากซัพพลายเออร์

ขณะกำไรขั้นต้น เท่ากับ 1,194.50 ล้านบาท  ลดลง 18.75 ล้านบาท หรือลดลงคิดเป็น 1.5%  หรือ คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 17.7% เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับอัตรากำไรขั้นต้นของไตรมาส 3/67 ที่ 16.4% โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้นทุกกลุ่มสินค้า และ การบริหารจัดการต้นทุนขายที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

สำหรับการขยายสาขาในไตรมาส 3/68 กลุ่มบริษัทเปิดสาขาขนาดใหญ่ เพิ่ม 2 สาขา และ สาขาขนาดเล็ก เพิ่ม 1 สาขา ทำให้มีสาขาขนาดใหญ่ที่เปิดบริการทั้งสิ้น 26 สาขา และ มีสาขาขนาดเล็ก (Dohome ToGo) ที่เปิดบริการทั้งสิ้น 17 สาขา

ทางด้าน 9 เดือน กลุ่มบริษัทมีกำไรสุทธิ เท่ากับ 504.32 ล้านบาท หรือ คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 2.3% ลดลง 1.9% เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิ 6 เดือนของปี 67 ซึ่งเท่ากับ 514.00 ล้านบาท หรือ คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 2.2% ในขณะที่รายได้รวม 9 เดือน ของปี 68 เท่ากับ 22,324.26 ล้านบาท ลดลง 5.5% จากรายได้รวม 9 เดือน ของปี 67 โดยมีสาเหตุหลักมาจากรายได้จากการขายและค่าบริการ เท่ากับ 22,114.77 ล้านบาท ลดลง 1,253.13 ล้านบาท หรือ 5.4% จาก 9 เดือนของปี 67 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการลดลงของรายได้จากสาขาเดิม ในขณะที่สาขาที่อยู่ในช่วง Ramp up ยังคงเติบโตและ มีรายได้ของสาขาที่เปิดใหม่เพิ่มขึ้น และ รายได้อื่น เท่ากับ 209.49 ล้านบาท ลดลง 35.87 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 14.6% จาก 9 เดือนของปี 67 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการลดลงของเงินสนับสนุนจากเจ้าของสินค้าผู้จัดจำหน่าย

ส่วนกำไรขั้นต้น เท่ากับ 3,924.58 ล้านบาท หรือ คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 17.7% เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับอัตรากำไรขั้นต้น 9 เดือนของปี 67 ที่ 17.2% โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้นของสินค้าทุกกลุ่มสินค้า