*** สัญญาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส (WTI) ปิดที่ 60.09 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.40 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2.39% สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ทะเลเหนือ ปิดที่ 64.39 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.38 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2.19% ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นกว่า 2% ในวันศุกร์ หลังรัสเซียระงับการส่งออกน้ำมันผ่านท่าเรือโนโวรอสซีสค์ (Novorossiisk) เนื่องจากการโจมตีด้วยโดรนของยูเครนที่สร้างความเสียหายต่อคลังน้ำมันในศูนย์กลางพลังงานของรัสเซีย *** ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าอาหารมากกว่า 200 รายการ รวมถึงสินค้าพื้นฐานอย่างกาแฟ เนื้อวัว กล้วย และน้ำส้ม ท่ามกลางความไม่พอใจที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคชาวอเมริกันต่อค่าครองชีพและราคาสินค้าอาหารที่สูงขึ้น โดยการยกเว้นภาษีรอบใหม่ ซึ่งมีผลย้อนหลังตั้งแต่เที่ยงคืนวันพฤหัสบดี ถือเป็นการกลับลำครั้งใหญ่ของทรัมป์ หลังจากยืนยันมาตลอดว่า มาตรการขึ้นภาษีนำเข้าที่ประกาศใช้เมื่อต้นปี ไม่ใช่สาเหตุของเงินเฟ้อ *** ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซื้อพันธบัตรภาคเอกชนและพันธบัตรที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐ อย่างน้อย 82 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ระหว่างช่วงปลายเดือนส.ค. - ต้นเดือนต.ค. โดยมีการทำธุรกรรมลงทุนมากกว่า 175 รายการตั้งแต่วันที่ 28 ส.ค. ถึง 2 ต.ค. แบบฟอร์มที่เผยแพร่โดยสำนักงานจริยธรรมรัฐบาลสหรัฐฯ (U.S. Office of Government Ethics) ภายใต้กฎหมายจริยธรรมปี 1978 ไม่ได้กำหนดให้ต้องระบุตัวเลขที่ชัดเจนของธุรกรรมแต่ละรายการ แต่ประเมินมูลค่ารวมสูงสุดของการซื้อพันธบัตรชุดนี้มากกว่า 337 ล้านดอลลาร์สหรัฐ *** รายงาน 13F ล่าสุดเผยว่า เฮดจ์ฟันด์รายใหญ่ของวอลล์สตรีท พากันลดสัดส่วนการถือครองหุ้นกลุ่ม Magnificent Seven ในไตรมาส 3 โดยเฉพาะ Nvidia, Amazon, Alphabet และ Meta สะท้อนความกังวลต่อมูลค่าหุ้นเทคโนโลยีที่พุ่งสูง โดยมีการโยกเงินไปยังกลุ่มซอฟต์แวร์ แอปพลิเคชัน อีคอมเมิร์ซ และผู้ให้บริการระบบชำระเงิน ความเคลื่อนไหวดังกล่าว สะท้อนการปรับพอร์ตเชิงป้องกันของนักลงทุนสถาบัน ท่ามกลางความผันผวนและความไม่แน่นอนของมูลค่าหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ในระยะนี้ *** Berkshire Hathaway เปิดเผยพอร์ตหุ้นสหรัฐฯ ไตรมาส 3 โดยเข้าถือหุ้น Alphabet มูลค่า 4,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 17.85 ล้านหุ้น นับเป็นการลงทุนครั้งสำคัญในบริษัทเทคโนโลยี ซึ่งถือเป็นเรื่องผิดคาดเมื่อเทียบกับสไตล์การลงทุนเน้นคุณค่าของวอร์เรน บัฟเฟตต์ ในขณะเดียวกัน Berkshire ลดสัดส่วนการถือครอง Apple ลงเหลือ 238.2 ล้านหุ้น จาก 280 ล้านหุ้นในไตรมาสก่อน และขายไปแล้วเกือบ 3 ใน 4 จากจำนวนมากกว่า 900 ล้านหุ้นที่เคยถือ แม้ยังคงเป็นหุ้นใหญ่สุดในพอร์ตก็ตาม *** YouTube และ Walt Disney บรรลุข้อตกลงคืนช่องของ Disney ให้กับ YouTube TV อีกครั้ง หลังข้อพิพาทเรื่องค่าเผยแพร่สัญญาณ ทำให้ผู้ใช้นับล้านพลาดชมรายการสำคัญในวันเลือกตั้งสหรัฐฯ และการแข่งขันกีฬารายการใหญ่ โดยช่องทั้งหมดของ Disney รวมถึง ABC, ESPN, FX และ National Geographic กลับมาให้บริการตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา โดย YouTube ยังระบุว่า คอนเทนต์กีฬาทั้งหมดของ ESPN รวมถึงรายการจาก ESPN Unlimited จะเปิดให้สมาชิกแพ็กเกจพื้นฐานสำหรับการรับชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม ภายในสิ้นปี 2026 *** เศรษฐกิจญี่ปุ่นหดตัวแบบปีต่อปี 1.8% ในไตรมาส 3 ซึ่งถือเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 6 ไตรมาส เนื่องมาจากแรงกดดันด้านการส่งออก ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ แม้ตัวเลขจะออกมาติดลบน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่สถานการณ์นี้ อาจทำให้แผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เผชิญความยากลำบากยิ่งขึ้น โดยนักวิเคราะห์กำลังจับตาว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่น จะสามารถฟื้นตัวจากผลกระทบภาษีและกลับมาขยายตัวได้เร็วเพียงใด ตัวเลข GDP ที่ลดลงครั้งนี้ ดีกว่าคาดการณ์ของผลสำรวจรอยเตอร์ซึ่งประเมินไว้ที่ 2.5% โดยก่อนหน้าเศรษฐกิจขยายตัว 2.3% (ปรับทบทวนแล้ว) ในไตรมาสที่ 2 จากแรงหนุนการส่งออกที่แข็งแกร่งและการเร่งขนส่งสินค้าไปยังสหรัฐฯ ก่อนที่การเจรจาภาษีจะได้ข้อยุติ *** Hyundai Motor Group ประกาศแผนลงทุนมูลค่า 125.2 ล้านล้านวอน (ประมาณ 86,470 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในเกาหลีใต้ระหว่างปี 2026–2030 หลังรัฐบาลเกาหลีใต้ สรุปข้อตกลงการค้าที่นำไปสู่การลดภาษีนำเข้ารถยนต์เกาหลีในสหรัฐฯ จาก 25% เหลือ 15% โดนมูลค่าแผนลงทุนใหม่สูงกว่างบ 89.1 ล้านล้านวอนที่ Hyundai Motor และ Kia ใช้ลงทุนในช่วงปี 2021–2025 อย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนการเร่งเสริมความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมยานยนต์เกาหลีใต้ 
*** Samsung Electronics, Hyundai Motor และผู้ผลิตรายใหญ่ของเกาหลีใต้หลายแห่ง เปิดเผยแผนลงทุนภายในประเทศ ท่ามกลางความกังวลว่าข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ซึ่งกำหนดให้เกาหลีใต้ลงทุน 350,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในภาคยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ อาจทำให้การผลิตในประเทศอ่อนแอลง Samsung Electronics ระบุว่า จะเพิ่มไลน์การผลิตชิปในโรงงานเมืองพยองแท็ก เพื่อตอบสนองดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น จากกระแสการเติบโตของปัญญาประดิษฐ์ทั่วโลก โดยเป็นส่วนหนึ่งของแผนการลงทุนในประเทศของกลุ่ม Samsung มูลค่า 450 ล้านล้านวอนในช่วง 5 ปีข้างหน้า *** คณะผู้แทนจีนระบุในการประชุมสุดยอดด้านสภาพภูมิอากาศ COP30 ว่า กฎระเบียบทางการค้าและมาตรการจำกัดต่าง ๆ รวมถึงภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และมาตรการของสหภาพยุโรป กำลังกัดกร่อนความพยายามของทั่วโลกในการจำกัดภาวะโลกร้อน และทำให้อัตราการบรรลุเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศอ่อนแรงลง ซึ่งความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ และอียูขยายวงกว้างไปไกลกว่าสินค้าพลังงานสะอาด แต่ยังครอบคลุมสินค้าตั้งแต่ถั่วเหลืองไปจนถึงชิปเซมิคอนดักเตอร์ สำหรับการเจรจา COP30 ประเด็นข้อจำกัดทางการค้าเป็นหนึ่งในหัวข้ออ่อนไหวหลายประการ รวมถึงการจัดหาเงินทุนด้านสภาพภูมิอากาศ และการเร่งลดการปล่อยคาร์บอน ที่ไม่ได้ถูกบรรจุในวาระอย่างเป็นทางการ *** Tesla กำลังสั่งให้ซัพพลายเออร์ ยกเลิกการใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในจีน สำหรับการประกอบรถยนต์ในสหรัฐฯ โดยบริษัทรวมถึงซัพพลายเออร์ ได้เริ่มเปลี่ยนชิ้นส่วนบางรายการที่ผลิตในจีนแล้ว และตั้งเป้าจะเปลี่ยนทั้งหมดไปใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตนอกจีนภายใน 1 ถึง 2 ปีข้างหน้า โดยผู้บริหาร Tesla กำลังเผชิญความท้าทายจากภาษีศุลกากรที่ผันผวน ภายใต้ข้อขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ซึ่งทำให้การกำหนดราคาสินค้ามีความซับซ้อนมากขึ้น *** ผู้บริหารระดับสูงจาก Prada, Coach, EssilorLuxottica และ Value Retail เปิดเผยว่า ความต้องการสินค้าแบรนด์หรูในจีนเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้นหลังอ่อนตัวต่อเนื่องหลายเดือน แม้ภาคสินค้าฟุ่มเฟือยโดยรวมยังรายงานการใช้จ่ายที่อ่อนแอของผู้บริโภคจีนทั้งในประเทศและต่างประเทศ จีนเคยถูกคาดหมายว่า จะก้าวขึ้นเป็นตลาดสินค้าหรูใหญ่ที่สุดในโลกในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ภาคส่วนนี้กลับชะลอลงอย่างรวดเร็วในเวลาต่อมา จากแรงกดดันด้านเศรษฐกิจ ทั้งอัตราว่างงานของแรงงานวัยหนุ่มสาวที่สูง ภาวะอสังหาริมทรัพย์ตกต่ำที่ยืดเยื้อ และความเชื่อมั่นของครัวเรือนที่อ่อนแอ ซึ่งฉุดการใช้จ่ายสินค้าฟุ่มเฟือย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้มีรายได้ระดับกลาง *** กระแสคลั่งไคล้ตุ๊กตา Labubu จาก Pop Mart เริ่มมีลักษณะคล้ายรอบเฟื่องฟู-ฟองสบู่แตก เหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับ Beanie ในทศวรรษ 1990 ตามมุมมองของนักวิเคราะห์ที่ให้คำแนะนำ “ขาย” หุ้น Pop Mart โดยเมลินดา หู นักวิเคราะห์อาวุโสด้านหุ้นกลุ่มคอนซูเมอร์ ประจำเอเชีย จาก Bernstein ในฮ่องกง ระบุว่า ความนิยมของตุ๊กตาเขี้ยวแหลมกำลังเข้าใกล้จุดสูงสุด และความไม่แน่ใจเกี่ยวกับตัวขับเคลื่อนยอดขายใหม่ของ Pop Mart บ่งชี้ว่าศักยภาพขาขึ้นของหุ้นมีจำกัด ยุครุ่งเรืองของหุ้น Pop Mart อาจผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว โดยหุ้นที่จดทะเบียนในฮ่องกงร่วงลงมากกว่า 30% จากระดับสูงสุดในเดือน ส.ค. บางส่วนของแรงขายเกิดขึ้นหลังมีพนักงานถูกตั้งคำถามเรื่องราคาสินค้า blind-box ระหว่างไลฟ์สตรีม โดยกระแสเทขายครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากหุ้นพุ่งแรงกว่า 1,500% นับตั้งแต่ต้นปีที่แล้วจนถึงจุดสูงสุดในเดือน ส.ค. 
|