สมาคมผู้รับประกันภัยต่อแห่งสิงคโปร์ (Singapore Reinsurers' Association - SRA) ย้ำถึงความจำเป็นในการหาแนวทางเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการชดเชยความเสียหายจากภัยพิบัติทางธรรมชาติในอนาคต ชี้ผู้ที่เกี่ยวข้องด้านประกันภัย รวมไปถึงรัฐบาลและภาคธุรกิจ จำเป็นต้องสร้างโมเดลประกันภัยรูปแบบใหม่ที่มีค่าใช้จ่ายไม่สูง เพื่อลดช่องว่างในการคุ้มครองและเสริมสร้างความยืดหยุ่นในภูมิภาคอาเซียน ความเสียหายจากอุทกภัย ดินถล่ม และพายุไซโคลนที่พัดถล่มอาเซียน ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตราว 1,000 คน ในอินโดนีเซีย, ไทย, เวียดนาม และมาเลเซียเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้รัฐบาลเผชิญกับอุปสรรคในการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัย ภาคธุรกิจประกันภัยจึงได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจัดทำโมเดลการประกันภัยรูปแบบใหม่ เพื่อรับมือภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ถือเป็นปัจจัยที่สร้างความเสี่ยงในระดับโครงสร้าง สถาบันคลังสมองแห่งหนึ่งในจาการ์ตาประเมินว่า ความเสียหายทางเศรษฐกิจเกิดจากภัยพิบัติด้านสภาพอากาศของอินโดนีเซียเพียงประเทศเดียว คาดว่าจะเกิน 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เคนริค ลอว์ (Kenrick Law) ประธาน SRA ให้สัมภาษณ์กับ Nikkei Asia ว่า "หลังเกิดพายุและน้ำท่วมครั้งล่าสุด คาดว่าบริษัทประกันภัยหลักจะได้คำร้องยื่นเคลมความเสียหายทั้งส่วนบุคคลและธุรกิจ ซึ่งจากความสูญเสียที่เกิดขึ้นทั้งหมดน่าจะเผยให้เห็นช่องว่างด้านความคุ้มครอง เนื่องจากผู้ประสบภัยจำนวนมากไม่มีประกันภัย 
ทางด้านสภาธุรกิจประกันภัยอาเซียน (ASEAN Insurance Council) ยอมรับว่า ภัยพิบัติที่เกิดจากสภาพภูมิอากาศไม่ได้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชั่วครั้งชั่วคราวอีกต่อไป แต่เป็นปัจจัยที่นำไปสู่ความเสี่ยงเชิงโครงสร้าง Budi Herawan ประธานสมาคมประกันวินาศภัยแห่งอินโดนยิเซีย (General Insurance Association of Indonesia – AAUI) กล่าวว่า "บรรดาสมาคมที่เป็นสมาชิกกำลังทบทวนปัจจัยต่าง ๆ เกี่ยวกับการรับประกันภัยจากความเสียหายที่เกี่ยวข้องกับภัยพิบัติ โดยนำแผนที่ภัยพิบัติที่ล่าสุด การจำลองกรณีน้ำท่วม และข้อมูลเชิงลึกที่เกี่ยวกับการรับประกันภัยต่อในภูมิภาคมาใช้ เพื่อสร้างความมั่นใจว่า การทำกรมธรรม์ในอนาคตจะแบ่งกลุ่มตามความเสี่ยงได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งออกข้อกำหนดการเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติที่เข้มงวดขึ้นสำหรับผู้เอาประกันภัย ตลอดจนบูรณาการความร่วมมือกับรัฐบาลอย่างต่อเนื่องเพื่อลดความเสี่ยงและกำหนดกรอบการจัดหาเงินทุนเพื่อรับมือภัยพิบัติ การทบทวนดังกล่าวเป็นการแสดงให้เห็นว่า ผู้รับประกันภัยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังต่อสู้กับภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นในหลายประเทศและมีความถี่มากขึ้น รวมไปถึงแนวทางการให้ความคุ้มครองแก่ธุรกิจและชุมชนในกรณีดังกล่าว ซึ่งบริษัทประกันภัยมักจะหลีกเลี่ยงการจ่ายสินไหมทดแทน ที่มา Nikkei Asia 
|