ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แสดงการสนับสนุนข้อตกลง ระหว่างพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครต เพื่อยุติภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นพัฒนาการสำคัญที่เพิ่มโอกาสให้รัฐบาล กลับมาเปิดทำการได้ภายในไม่กี่วันข้างหน้า พร้อมขู่ตัดค่าจ้างเจ้าหน้าที่ควบคุมการบิน หากไม่กลับเข้าทำงาน หลังยอดยกเลิกเที่ยวบินทั่วสหรัฐฯ ทะลุ 2,000 เที่ยว ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่า “เรามีเสียงสนับสนุนจากเดโมแครตเพียงพอแล้ว และเรากำลังจะเปิดประเทศของเราอีกครั้ง มันน่าเสียดายที่ต้องปิดไป แต่เราจะกลับมาเปิดอย่างรวดเร็ว” ด้าน จอห์น ธูน ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา คาดว่าประธานาธิบดีทรัมป์จะลงนามในร่างกฎหมายดังกล่าวทันที หลังสภาคองเกรสให้ความเห็นชอบ อย่างไรก็ตาม วุฒิสภายังต้องดำเนินขั้นตอนทางกฎหมายที่อาจใช้ระยะเวลาหลายวัน คาดว่าการลงมติครั้งสุดท้ายในวุฒิสภาจะเกิดขึ้นในคืนวันจันทร์ ก่อนส่งร่างกฎหมายไปให้สภาผู้แทนราษฎรลงมติในวันพุธ โดยไมค์ จอห์นสัน (Mike Johnson) ประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่าจะแจ้งให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทราบล่วงหน้า 36 ชั่วโมง เพื่อให้เวลาเตรียมตัวเดินทางกลับมาร่วมลงมติ อย่างไรก็ตาม แม้รัฐบาลจะใกล้กลับมาเปิดทำการ แต่อาจยังมีผลกระทบต่อเที่ยวบินและการจัดส่งความช่วยเหลือด้านอาหารในระยะสั้น ขณะที่สมาชิกพรรครีพับลิกันออกมาเฉลิมฉลอง โดยไมค์ จอห์นสันกล่าวว่า ฝันร้ายของชัตดาวน์ ที่ยาวนานถึง 41 วัน กำลังจะสิ้นสุดลงในที่สุด อย่างไรก็ดี ข้อตกลงนี้ไม่ได้รวมการขยายเงินอุดหนุนตามกฎหมาย Affordable Care Act หรือโอบามาแคร์ (Obamacare) ตามที่พรรคเดโมแครตเรียกร้อง ส่งผลให้เกิดกระแสไม่พอใจภายในพรรค หลังจากเพิ่งฉลองชัยชนะในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยเกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย วิจารณ์ข้อตกลงดังกล่าวว่าน่าสมเพช ขณะที่เจบี พริตซ์เกอร์ ผู้ว่าการรัฐอิลลินอยส์ กล่าวว่าข้อตกลงนี้เป็นเพียงคำสัญญาที่ว่างเปล่าจากพรรครีพับลิกัน 
เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (9 พ.ย.) วุฒิสภาลงมติ 60 ต่อ 40 เสียง เห็นชอบให้เดินหน้าพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการยุติภาวะชัตดาวน์ โดยตามข้อตกลง รัฐสภาจะจัดสรรงบประมาณทั้งปีให้กับกระทรวงเกษตร กระทรวงกิจการทหารผ่านศึก และสภาคองเกรส ขณะที่หน่วยงานอื่น ๆ จะได้รับงบชั่วคราวถึงวันที่ 30 ม.ค. ร่างกฎหมายนี้ จะอนุมัติการจ่ายเงินเดือนย้อนหลังให้กับพนักงานที่ถูกพักงาน ฟื้นการโอนเงินสหพันธรัฐที่ค้างจ่ายให้รัฐและท้องถิ่น เรียกพนักงานกลับเข้าทำงาน และห้ามมีการปลดพนักงานภาครัฐจนถึงสิ้นเดือนม.ค. โดยคาดว่ารัฐบาลจะกลับมาเปิดทำการได้ในช่วงปลายสัปดาห์ ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศ กลับเข้าทำงานในวันจันทร์ หลังผู้โดยสารทั่วสหรัฐฯ ต้องเผชิญกับการยกเลิกเที่ยวบินจำนวนมาก เนื่องจากคำสั่งลดเที่ยวบินที่รัฐบาลออกเพื่อรับมือกับภาวะขาดแคลนบุคลากรระหว่างชัตดาวน์ของรัฐบาลกลาง โดยทรัมป์ขู่ว่าจะตัดค่าจ้างของเจ้าหน้าที่ที่ไม่กลับมาทำงาน พร้อมประกาศว่าจะมอบโบนัส 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ ให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานต่อเนื่องโดยไม่หยุดงานตลอดช่วงชัตดาวน์ 41 วัน และกล่าวเพิ่มเติมว่ารัฐบาลยินดีรับการลาออกของผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง คำกล่าวของประธานาธิบดีทรัมป์ มีขึ้นหลังระบบการบินของสหรัฐฯ เผชิญปัญหาหนักในช่วงหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเจ้าหน้าที่ควบคุมการบินจำนวนมากขาดงานเพราะไม่ได้รับค่าจ้าง ต้องทำงานพิเศษที่อื่น หรือไม่สามารถหาคนดูแลบุตรได้ โดยสมาคมสายการบินของสหรัฐฯ ระบุว่า มีผู้โดยสารกว่า 1.2 ล้านคนในวันเสาร์และอาทิตย์ ที่ได้รับผลกระทบจากเที่ยวบินล่าช้าหรือถูกยกเลิก รายงานของ FlightAware ซึ่งเป็นเว็บไซต์ติดตามเที่ยวบิน ระบุว่า สายการบินต่าง ๆ ได้ ยกเลิกเที่ยวบินในสหรัฐฯ ไปมากกว่า 2,250 เที่ยวบิน และ ทำให้เที่ยวบินล่าช้าไปมากกว่า 8,100 เที่ยวบิน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่า ทำเนียบขาวไม่มีอำนาจทางกฎหมายในการตัดเงินเดือนภายใต้สัญญาของสหภาพแรงงานเจ้าหน้าที่ควบคุมการบิน (NATCA) เมื่อรัฐบาลกลับมาเปิดทำการ เช่นเดียวกับข้อเสนอเรื่องโบนัสที่ยังไม่ชัดเจนว่าจะใช้งบประมาณจากที่ใด ทั้งนี้ สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติ (FAA) เปิดเผยว่า ในช่วงชัตดาวน์ มีเจ้าหน้าที่ควบคุมการบินขาดงานประมาณ 20-40% ต่อวัน ที่สนามบินหลัก 30 แห่งทั่วประเทศ และยังคงมีปัญหาการขาดแคลนบุคลากรในศูนย์ควบคุมการบินกว่า 20 แห่งทั่วสหรัฐฯ ที่มา Bloomberg และ Reuters

|