TTB ประเมินปี 69 เศรษฐกิจยังผันผวน และ มีความไม่แน่นอน ส่งผลธนาคารเน้นความระมัดระวังในการขยายสินเชื่อ และ คุมหนี้เสีย พร้อมให้ความช่วยเหลือลูกค้าต่อเนื่อง ยันไม่สนใจจัดตั้ง JV AMC หลังมี บริษัทบริหารสินทรัพย์พหลโยธิน(PAMCO) บริหาร NPL อยู่แล้ว แย้มยังมีโครงการซื้อหุ้นคืนอีกครั้งในเดือนก.พ. 69 ชี้รอบอร์ดเคาะวงเงิน นายนริศ อารักษ์สกุลวงศ์ chief strategy and digital group ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB เปิดเผยในงาน Opportunity Day ว่า ภาพรวมเศรษฐกิจในปี 2569 ยังมีความท้าทาย และ ความไม่แน่นอนสูง ซึ่งที่ผ่านมาธนาคารมีการดำเนินกลยุทธ์ระมัดระวังมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการขยายตัวของสินเชื่อ หรือ การตั้งสำรองในระดับที่เหมาะสม ส่งผลให้ธนาคารยังมีความแข็งแรง และ ให้ความช่วยเหลือลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยในระยะสั้นธนาคารให้ความสำคัญกับการประคองลูกค้า และ ควบคุมคุณภาพของพอร์ต "ปี 69 ยังคงไม่ต่างจากหลายปีที่ผ่านมา เราเน้นดูแลคุณภาพของพอร์ต ไม่เน้นขยายสินเชื่อ ถ้าจะขยายสินเชื่อ เราจะไปในสิ่งที่เราถนัด ให้ผลตอบแทนสูง แต่ไม่มีความเสี่ยง หรือ เสี่ยงน้อย"นายนริศ กล่าว 
นางสาวดารารัตน์ อุระพันธมาศ head of investor relation ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB กล่าวเพิ่มเติมว่า เป้าหมายทางการเงินปี 2568 แบ่งเป็น การเติบโตของสินเชื่อที่คาดไว้ 0 ถึง -2% แต่ 9 เดือน -3.5%YTD ซึ่งคาดว่า เป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อจะเป็นไปได้ยากในสภาวะปัจจุบัน ในขณะที่การเติบโตของเงินฝาก ก็สอดคล้องกับการเติบโตของสินเชื่อเช่นกัน โดย 9 เดือน -4.4%YTD ในขณะที่อัตรากำไรสุทธิจากดอกเบี้ย(NIM) ที่ตั้งเป้าไว้ 3.1%-3.25% แต่ 9 เดือน 3.07% ก็ทำได้ยากเช่นกันในสภาวะการลดดอกเบี้ยนโยบายลงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ภาพรวมสินเชื่อ และ NIM อาจเป็นเรื่องยากที่จะถึงเป้าหมาย ส่วน Non-NII เป้าหมายการเติบโตแบบเลขตัวเดียว แต่ 9 เดือน 12.9%YoY ซึ่งคาดว่าจะทำได้ตามเป้าหมาย โดยส่วนใหญ่มาจากรายได้ค่าธรรมเนียมกองทุน ประกัน และ ตลาดทุน ซึ่งลูกค้ามีการหาผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝาก ส่งผลให้ค่าธรรมเนียมในส่วนดังกล่าวมีการเติบโตที่ดี และ Stage 3 จะควบคุมไม่ให้เกิน 2.9% โดย 9 เดือนอยู่ที่ 2.81% ซึ่งคาดว่า ปีนี้จะทำได้ตามเป้าหมายเช่นกัน สำหรับการจัดตั้ง JV AMC ธนาคารไม่มีแผนที่จะจัดตั้ง เนื่องจากธนาคารมีบริษัทบริหารสินทรัพย์พหลโยธิน (PAMCO) ที่บริหาร NPL อยู่แล้ว และ ที่ผ่านมาธนาคารมีแผนปรับโครงสร้าง มาตรการช่วยเหลือมาอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่แผนการซื้อหุ้นคืนนั้น ธนาคารได้ประกาศโครงการซื้อหุ้นคืนรวม 21,000 ล้านบาทใน 3 ปี (68-70) โดยได้ดำเนินการซื้อคืนรอบแรกเสร็จสิ้นไปแล้วเมื่อวันที่ 1 ส.ค. 68 ด้วยวงเงินไม่เกิน 7,000 ล้านบาท ซึ่งตามกฎระเบียบจะต้องเว้นไปอีก 6 เดือน ซึ่งจะครบกำหนดในเดือนก.พ.69 โดยธนาคารจะต้องได้รับการอนุมัตจากคณะกรรมการธนาคารถึงวงเงินที่จะซื้อหุ้นคืน ซึ่งในเดือนก.พ. 69 จะมีการประกาศอย่างเป็นทางการ 
|