เจนเซน หวง (Jensen Huang) ซีอีโอของ Nvidia ออกแถลงการณ์ผ่านโซเชียลมีเดียด้วยโทนเสียงที่อ่อนลง หลังให้สัมภาษณ์กับ Financial Times ว่า จีนกำลังเป็นผู้ชนะในสนามปัญญาประดิษฐ์ (AI)

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (5 พ.ย.) ซีอีโอของ Nvidia กล่าวนอกรอบในงาน Future of AI Summit ของ Financial Times โดยเตือนว่า จีนอาจเอาชนะสหรัฐฯ ในด้าน AI ได้ เนื่องจากมีต้นทุนพลังงานที่ต่ำกว่าและกฎระเบียบที่ผ่อนคลายกว่า ประโยคดังกล่าวเป็นคำพูดในเชิงเตือนที่ชัดเจนที่สุดของหวงจนถึงตอนนี้ว่า สหรัฐฯ กำลังเสี่ยงที่จะสูญเสียความเป็นผู้นำโลกในเทคโนโลยี AI ขั้นสูง

หลังจาก Financial Times เผยแพร่รายงานไม่กี่ชั่วโมงต่อมา Nvidia ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการบนบัญชี X “อย่างที่ผมเคยพูดมาตลอด จีนตามหลังอเมริกาแค่เสี้ยววินาทีในด้าน AI สิ่งสำคัญคืออเมริกาต้องเร่งก้าวนำ และเอาชนะด้วยการดึงดูดนักพัฒนาทั่วโลก”

เจนเซน หวง เคยกล่าวหลายครั้งว่า สหรัฐฯ สามารถรักษาความเป็นผู้นำในสนาม AI ได้ หากยังคงทำให้นักพัฒนาทั่วโลกพึ่งพาชิป AI ระดับแนวหน้าของ Nvidia ซึ่งเป็นเหตุผลที่เขาใช้เพื่อผลักดันให้รัฐบาลสหรัฐฯ ผ่อนคลายข้อจำกัดการส่งออกชิปไปจีน

หลังจากพบกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อเดือนก.ค. ดูเหมือนว่าความพยายามของหวงจะได้ผลอยู่บ้าง เมื่อรัฐบาลสหรัฐฯ ยอมผ่อนคลายข้อจำกัดบางประการ โดยภายใต้ข้อตกลงนั้น Nvidia และคู่แข่งอย่าง AMD ตกลงที่จะแบ่งรายได้ 15% จากยอดขายในจีนให้รัฐบาลสหรัฐฯ สำหรับหน่วยประมวลผลที่ขายให้จีน แต่ รัฐบาลจีนได้ระงับการเข้าถึงตลาดของ Nvidia ในเวลาต่อมา โดยอ้างว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบด้านความมั่นคงของชิป และหวงยอมรับว่า ส่วนแบ่งตลาดของบริษัทในจีนลดลงเหลือศูนย์

อย่างไรก็ดี ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า จีนจะอนุญาตให้ Nvidia กลับมาขายชิปในตลาดอีกหรือไม่ ในขณะที่จีนเองก็กำลังผลักดันให้บริษัทเทคโนโลยีภายในประเทศหันมาใช้ชิป AI ที่ผลิตเองภายในประเทศ

ที่มา CNBC