นายกฯ พอใจทีมเศรษฐกิจ ออกนโยบายเข้าใจปากท้องปชช. -ดันเม็ดเงินเข้าระบบ พร้อมเดินหน้าแก้หนี้ครัวเรือน - พลังงานสะอาด พร้อมยันยุบสภาตามไทม์ไลน์เดิม นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยในการแสดงวิสัยทัศน์ "Thailand's Next Frontier: A Notional Economic Vision วิสัยทัศน์ประเทศไทยในโลกใหม่" ว่า ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดนี้ มีความเข้าใจกลไกของรัฐ และสามารถลงมือปฏิบัตินโยบายได้จริง โดยให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน เช่น นโยบาย “คนละครึ่ง พลัส” คิดว่าประชาชนจะได้รับประโยชน์อะไร และสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือ มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ประชาชนได้ใช้จ่าย และรู้สึกมีส่วนร่วมในส่วนของกลุ่มคนเปราะบาง "รัฐบาลมีนโยบายเติมเงินให้ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อให้เกิดผลประโยชน์กับประชาชนทุกคน ถือเป็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ครอบคลุม และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศ และสร้างขวัญกำลังใจให้ประชาชน ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่รัฐบาล 4 เดือนทำสำเร็จ และได้รับเสียงตอบรับอย่างดีจากประชาชน" นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังยังดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน โดยจะปรับโครงสร้างหนี้ไม่เกิน 100,000 บาท ซึ่งเป็นมาตรการสำคัญด้านการเงินสำหรับประชาชน รวมถึงนโยบายด้านพลังงาน ที่ได้ผลักดันโครงการไฟฟ้าชุมชน เดินหน้าสู่ Green economy โดยต้องทำให้ประชาชนเข้าใจบริบทพลังงานสีเขียว สร้างความคุ้นเคยกับพลังงานสะอาด ปรับตัวตามกติกาใหม่ของโลก สร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อการดำเนินชีวิตและการทำธุรกิจ เพิ่มความสามารถในการแข่งขันระดับโลก อีกทั้งการดำเนินดังกล่าวนี้ เป็นการวางกรอบให้รัฐบาลในอนาคตสามารถต่อยอดได้อย่างยั่งยืน ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึง 3 สิ่งที่โฟกัสที่สุดที่อยากทำให้สำเร็จ เรื่องแรก คือการยุบสภาวันที่ 31 มกราคม 2569 เรื่องที่สองคือเรื่องปากท้องของประชาชน และที่ทำสำเร็จแล้ว โครงการคนละครึ่ง พลัส ซึ่งเป็นนโยบายที่เกิดขึ้นจริงภายในระยะเวลา 3 สัปดาห์ ประชาชนได้ใช้ประโยชน์จริง นอกจากนี้จะผลักดันคนละครึ่ง พลัส เฟส 2 เพื่อเกิด After Shock ภายในเดือนธันวาคม 2568 ส่วนเรื่องที่สามการแก้ไขปัญหาหนี้สิน และเรื่องของลดค่าโดยสารขนส่งสาธารณะ ซึ่งจะช่วยลดค่าครองชีพ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนได้ ตลอดระยะเวลา 1 เดือน ได้ทำงานบรรลุตามเป้าหมายอย่างที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากมีเวลาเพียง 4 เดือนในการบริหารราชการแผ่นดิน โดยก่อนหน้าได้เตรียมการและวางแผนกรอบการทำงานไว้ เพื่อให้การทำงาน 4 เดือน เป็นเวลาที่มุ่งมั่นทำงานอย่างเดียว โดยสิ่งที่ทำได้ก่อนจะเร่งทำอย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องไหนที่ยังทำไม่ได้ก็ต้องรอรัฐบาลใหม่ "รัฐบาลมุ่งเน้นเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจแบบ Quick Big Win ซึ่งเป็นที่มาของนโยบาย Quick Big Win ของรัฐบาล รวมถึงการแก้ไขปัญหาความมั่นคง การเร่งฟื้นฟูเยียวยาประชาชนที่ได้รับความเสียหาย และภัยพิบัติต่าง ๆ ยืนยันว่ากำหนดเวลายังเป็นไปตาม Timeline เดิม ไม่เปลี่ยนความคิด ตลอดเวลาที่ผ่านมา มีหลายฝ่ายเข้ามาเตือนหรือคาดการณ์ว่าอาจจะเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่อาจกลายเป็นข้ออ้างให้เลื่อนการยุบสภาออกไป แต่ยืนยันว่าจะไม่ปฏิบัติตามแน่นอน ต้องรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับพรรคประชาชน เมื่อครบ 4 เดือน จะมีการยุบสภา ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ใด ๆ ก็ตาม" 
|