XPG มั่นใจปีนี้รายได้ทะลุเป้า 1,100 ล้านบาท ส่วนปี 69 คาดโต 10 - 20% รับรายได้ค่าธรรมเนียม - สินเชื่อเติบโตแข็งแกร่ง พร้อมทอยอยออกกองทุนเพิ่ม จ่อออก SiriHub2 Token เร็วๆ นี้ ด้านหุ้นไทยคาดปีนี้ยังหวัง 1,400 จุด แนะลงทุนหุ้นปันผล
นางสาววรางคณา อัครสถาพร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ XPG เปิดเผยว่าในช่วงครึ่งปี 68 สามารถทำรายได้แล้ว 462.93 ล้านบาท กำไรสุทธิ 89.56 ล้านบาท โดยตั้งเป้ารายได้รวมทั้งปีที่ไว้ที่ 1,100 ล้านบาท เนื่องจากในครึ่งปีหลัง XPG ได้รับปัจจัยบวกหลายด้าน ทั้งในส่วนของสินเชื่อที่ยังคงเติบโตดีต่อเนื่อง ธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์และสินทรัพย์ดิจิทัล (Brokerage) มีสัญญาณเติบโตได้ต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก ทั้งจากภาวะตลาดหุ้นไทยที่เริ่มกลับมามีสัญญาณที่ดีขึ้น
ขณะเดียวกันธุรกิจด้านบริหารความมั่งคั่ง ทั้งสินทรัพย์ดิจิทัลก็ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนในวงกว้างมากขึ้น เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ทางเลือกในการกระจายความเสี่ยงการลงทุนที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนสูง นอกจากนี้ธุรกิจบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนก็เข้าสู่ช่วง High season ที่จะมีแรงซื้อกองทุนเข้ามาสูงกว่าทุกช่วงของปี และอีกหนึ่งธุรกิจที่มีความโดดเด่นของ XPG คือธุรกิจให้สินเชื่อ ที่เติบโตอย่างโดดเด่นจากการขยายฐานลูกค้า Private Credit
สำหรับธุรกิจที่มีศักยภาพเติบโตโดดเด่นในช่วงไตรมาส 4/68 ได้แก่ ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด (XSpring Digital) ซึ่งอยู่ระหว่างการยื่นขออนุญาตต่อสำนักงาน ก.ล.ต. สำหรับการเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน “SiriHub2” โดยมีอาคารสำนักงาน Siri Campus มูลค่าประเมินกว่า 2,500 ล้านบาท เป็นทรัพย์สินอ้างอิง และมีบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) (เครดิตเรตติ้ง BBB+) เป็นผู้เช่าหลักเพียงรายเดียว โครงสร้างการลงทุนแบบใหม่ของ SiriHub2 ให้ผลตอบแทนคงที่ 6% ต่อปี ตลอดอายุโครงการ 3 ปี พร้อมสิทธิได้รับเงินต้นคืนเต็มจำนวนเมื่อครบกำหนดโครงการ เปิดให้ผู้ลงทุนจองซื้อเร็วๆ นี้
ด้านธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง ที่ให้บริการทั้งกองทุนรวม และบริหารจัดการกองทุนส่วนบุคคลในสินทรัพย์ทั้งในตลาดและนอกตลาด ผ่านบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็กซ์สปริง จำกัด (XSpring AM) เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่โดดเด่นในปีนี้ ซึ่งปัจจุบันมีสินทรัยพ์ภายใต้การบริหารรวม (AUM) ปัจจุบันอยู่ที่ 9,500 ล้านบาท คาดว่าสิ้นปีนี้จะสามารถทำได้ประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยเฉพาะการเปิดตัวกองทุนใหม่ๆ เพื่อเป็นทางเลือกในการลงทุนให้กับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนสูง เช่น การเปิดตัว กองทุนเปิดเอ็กซ์สปริงเทคโนโลยีพลังงานนิวเคลียร์และยูเรเนียม (X-NUCTECH) ที่ล่าสุด (วันที่ 29 ตุลาคม 2568) ให้ผลตอบแทนแล้ว 39.05%

นอกจากนี้ยังมีกองทุน X-EMBOND ลงทุนในตราสารหนี้ตลาดเกิดใหม่ทั่วโลกเพื่อตอบโจทย์เศรษฐกิจผันผวน เพื่อเป็นทางเลือกในการล็อกผลตอบแทนสูงก่อนจะเข้าสู่เทรนด์ดอกเบี้ยขาลง ขณะเดียวกันยังเปิดกองทุนใหม่ ที่เน้นเทคโนโลยีเพื่อตอบรับความต้องการของตลาดในยุคปัจจุบัน เช่น กองทุนเปิดเอ็กซ์สปริงควอนตัมคอมพิวเตอร์ X-QUANTUM ลงทุนในกองทุนต่างประเทศที่ลงทุนในหุ้นของบริษัททั่วโลกที่มีรายได้อย่างน้อยครึ่งหนึ่งมาจากธุรกิจเกี่ยวกับ ‘เทคโนโลยีควอนตัม’ ซึ่งอยู่ระหว่างการเปิดขายครั้งแรก (IPO) ช่วงวันที่ 27 ต.ค. - 4 พ.ย. 68 และเริ่มซื้อ - ขายได้ทุกวันทำการตั้งแต่วันที่ 6 พ.ย. 68 เป็นต้นไป ลงทุนเริ่มต้นเพียง 5,000 บาท ผ่าน XSpring Mobile Application หรือ ผู้สนับสนุนการขายหน่วยลงทุนทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังเตรียมเปิดกองทุนรวมอีกหนึ่งกองทุนในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้
ด้านธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์โดยบริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด (KTX) ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่กำลังเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ปัจจุบัน KTX ครองส่วนแบ่งการขายตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ (Depositary Receipt: DR) สูงสุดในตลาดหลักทรัพย์อย่างต่อเนื่อง โดยมีส่วนแบ่งอยู่ที่ 20% จากการบริการที่ตอบโจทย์นักลงทุน เช่นการบริการ DR Night Desk ที่ให้บริการนอกเวลาทำการในวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 19.00 - 03.00 น.ออกแบบมาเพื่อให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงโอกาสการลงทุนในหุ้นต่างประเทศได้แบบเรียลไทม์แม้ในช่วงกลางคืน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ตลาดหลักในสหรัฐ ฯ และยุโรปเปิดทำการสะท้อนวิสัยทัศน์ของบริษัทในการขับเคลื่อนนวัตกรรมการลงทุนให้เข้าถึงได้อย่างไร้ข้อจำกัด
อีกหนึ่งธุรกิจที่เติบโตอย่างโดดเด่นคือ ธุรกิจสินเชื่อ ทั้ง Private Credit ของ XPG ที่ได้รับปัจจัยบวกจากความผันผวนทางเศรษฐกิจ ทำให้สถาบันทางการเงินขนาดใหญ่เข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ จึงทำให้เกิดโอกาสธุรกิจจากกลุ่มที่ต้องการสินเชื่อเพิ่มสูงขึ้น ๆ เช่น ผู้ประกอบการที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียน ซึ่ง XPG ได้ออกแบบโซลูชันโครงสร้างหนี้ที่ยืดหยุ่น ตอบโจทย์และเฉพาะตัว ภายใต้แนวทางการทำงานร่วมกันของ Ecosystem ในกลุ่มธรุกิจการเงิน XSpring ซึ่งเชื่อมโยงบริการจากหลากหลายธุรกิจเข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ เช่น ลูกค้าที่ใช้บริการด้านวาณิชธนกิจ หรือด้านสินทรัพย์ดิจิทัล และลูกค้ากองทุน สามารถส่งต่อมาที่สินเชื่อได้ทันทีเมื่อฝั่งลูกค้าธุรกิจต่าง ๆ ต้องการเสริมสภาพคล่อง
ขณะที่ลูกหนี้คุณภาพดีจากสินเชื่อก็สามารถเชื่อมต่อไปยัง ผลิตภัณฑ์กองทุน หรือ โทเคนดิจิทัล รวมถึงธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ ผ่าน บล.กรุงไทย เอกซ์สปริง นอกจากนี้ ยังมีการบริหารโครงการ Co-Lending Program เพื่อเป็นทางเลือกในการเข้าถึงแหล่งสินเชื่อ โดยเปิดโอกาสให้ลูกค้ากลุ่ม Ultra Wealth ที่มีศักยภาพด้านเงินทุนเข้ามามีส่วนร่วมในการให้สินเชื่อ ร่วมกับภาคธุรกิจที่ต้องการแหล่งเงินทุน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่กำลังเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
*** ตั้งเป้าปี 69 รายได้โต 10-20% รุกหนัก 6 ธุรกิจการเงิน สำหรับทิศทางธุรกิจในปี 2569 นั้น กลุ่ม XPG คาดรายได้เติบโต 10 -20% จะยังคงเดินหน้าธุรกิจด้วย Ecosystem ของกลุ่มบริษัทที่มีบริการทางการเงินอย่างครบวงจร ที่ครอบคลุมด้วยบริการทางการเงิน 6 ธุรกิจ ให้บริการผ่านบริษัทลูกและบริษัทในเครือ ได้แก่
1. บริการด้านวาณิชธนกิจ (Investment Banking)
2. ธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์และสินทรัพย์ดิจิทัล (Brokerage)
3. ธุรกิจสินเชื่อ (Debt Financing) ปัจจุบันมีพอร์ตสินเชื่อรวมที่ 4,500 ล้านบาท
4. ธุรกิจการลงทุน (Investment)
5. ธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) ผ่านบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็กซ์สปริง จำกัด (XSpring AM)
6. ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ (Distressed Asset Management) ผ่าน บริษัท บริหารสินทรัพย์ เอ็กซ์สปริง เอ เอ็ม ซี จำกัด หรือ XSpring AMC ซึ่งปัจจุบันมีสินทรัพย์ในพอร์ตแล้ว 4,000 ล้านบาท
*** คาด SET ยังลุ้น 1,400 จุด ด้านนายยศกร ฟอลเล็ต เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็กซ์สปริง จำกัด (XSpring AM) เปิดเผยว่า คาดกรอบหุ้นไทยปีนี้แนวรับ 1,235 จุด แนวต้าน 1,350 และ 1,400 จุด โดยมองว่าภาพรวมเป้าหมายดัชนีดังกล่าวยังขึ้นกับภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งต้องติดตามยอดนักท่องเที่ยวและการบริโภคในช่วงปลายปีประกอบกัน โดยแนะนำลงทุนหุ้นในกลุ่มที่มีปันผลสูง

|