BOI ผนึก ตลท.เปิดยุทธศาสตร์ “พลังคูณสอง” ยกระดับผู้ประกอบการไทย-ต่างชาติ สู่เวทีทุนโลก เชิญ 5 บริษัทเข้าหารือ IPO นำร่องดึงกลุ่มอุตฯเทคโนโลยีขั้นสูง - อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ไฟฟ้า และดิจิทัล เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เสริมแกร่งเศรษฐกิจใหม่ของไทย ฟาก ตลท.ปรับเกณฑ์เปิดทางธุรกิจ New Economy เข้าระดมทุน แม้ยังไม่มีกำไร หวังเพิ่มโอกาสและความยั่งยืนของตลาดทุนไทย นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เปิดเผยว่า BOI ได้เริ่มเชิญชวนผู้ประกอบการจำนวน 5 บริษัท เข้าหารือกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อรับฟังข้อมูลและแนวทางการระดมทุนผ่านการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไป (IPO) โดยความร่วมมือระหว่าง BOI และตลาดหลักทรัพย์ฯ ถือเป็น “พลังคูณสอง” ที่จะช่วยยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการทั้งไทยและต่างชาติให้สามารถขยายธุรกิจและแข่งขันได้ในยุคเศรษฐกิจใหม่ ผ่านการผสานสิทธิประโยชน์จาก BOI เข้ากับเครื่องมือทางการเงินของตลาดทุนไทย 
สำหรับความร่วมมือในระยะเริ่มต้น จะมุ่งเน้น 2 ด้านหลัก ได้แก่ การดึงดูดบริษัทชั้นนำจากต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง 3 สาขา ได้แก่ อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ ยานยนต์ไฟฟ้า และดิจิทัล ที่เข้ามาลงทุนและได้รับการส่งเสริมจาก BOI ให้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการระดมทุน ยกระดับธรรมาภิบาลของธุรกิจ เสริมความแข็งแกร่งให้ตลาดทุนไทย และเปิดโอกาสให้นักลงทุนไทยร่วมเป็นเจ้าของอุตสาหกรรมอนาคต การส่งเสริมบริษัทจดทะเบียนเดิมให้ลงทุนยกระดับการผลิตอย่างยั่งยืน ผ่านมาตรการ Smart and Sustainable Industry ของ BOI ร่วมกับโครงการ JUMP+ ของตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมไทยสู่การเติบโตที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ ความร่วมมือดังกล่าวสอดคล้องกับเป้าหมายของ BOI ในการผลักดันประเทศไทยก้าวสู่ “เศรษฐกิจใหม่” ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และความยั่งยืนในระยะยาว นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีพันธกิจในการเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อธุรกิจให้เข้าถึงแหล่งระดมทุน และสร้างความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ลงทุนโดยที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีการปรับปรุงเกณฑ์การเข้าจดทะเบียนใน SET และ mai เพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มธุรกิจ New Economy ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ ผ่านเกณฑ์พิจารณา Market Capitalization เพื่อให้กิจการที่ลงทุนในเทคโนโลยี นวัตกรรม ซึ่งยังไม่มีผลกำไรสามารถเข้าจดทะเบียนได้ นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างทบทวนกฏเกณฑ์ดังกล่าวให้มีความทันสมัยเทียบเคียงได้กับตลาดหลักทรัพย์ในภูมิภาค 
|