**เราปรับลดคำแนะนำลงจาก “ซื้อ” เป็น “ถือ” ที่มูลค่าพื้นฐาน 20.00 บาท เนื่องจากเรามองว่าผู้ประกอบการในธุรกิจค้าปลีกในกลุ่ม Hypermarket กำลังเผชิญกับความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคที่กดดันยอดขายสินค้า non-food แต่ด้วย Valuation ที่ซื้อขายเพียง 15 เท่า และโอกาสฟื้นตัวของ SSSG จากผลกระทบจากการปรับปรุงสาขาที่ลดลง ขณะที่แนวโน้มการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ช่วง QTD ของ 4Q25 ยังคงติดลบใกล้เคียงกับ 3Q25 เนื่องจากยังคงมีผลกระทบจากการปรับปรุงสาขา ฐานสูงของ Digital wallet และการลดลงของนักท่องเที่ยว ** ธุรกิจ BigC ยังท้าทาย • บริษัทเตรียมปรับปรุงสาขา BigC จำนวน 18 สาขาในปี 2026 เทียบกับ 17 สาขาในปี 2025 โดยที่ผ่านมาหลังการปรับปรุงสาขาทำให้กำไรจากการดำเนินงานดีขึ้น 9.2% ผลจากการปรับลดพื้นที่ขายสินค้าและเพิ่มพื้นที่เช่าแทน ทำให้ยอดขาย/ตร.ม. +14.0%, รายได้ค่าเช่า/ตร.ม. +36.2% หลังการปรับปรุง แต่อย่างไรก็ตามการปรับปรุงสาขาที่ผ่านมามีผลกระทบต่อ SSSG ทำให้ยอดขายลดลง 1.7% จากการปรับปรุงสาขา ดังนั้นบริษัทจึงปรับลดจำนวนวันในการปรับปรุงสาขาลงเป็น 50 วันจาก 80 วัน จากการปรับปรุงกระบวนการ ซึ่งทำให้เราคาดว่าผลกระทบจากการปรับปรุงสาขาจะลดลงจากปี 2025 • แนวโน้มการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ช่วง QTD ของ 4Q25 ยังคงติดลบใกล้เคียงกับ 3Q25 เนื่องจากยังคงมีผลกระทบจาก 1. การปรับปรุงสาขา 2. ฐานสูงช่วงเดือน ต.ค. จากมาตรการแจกเงิน 1 หมื่นบาทของภารัฐในปีก่อน และ 3. การลดลงของจำนวนนักท่องเที่ยว แต่มีแนวโน้มดีขึ้นใน 1Q26 รับปัจจัยบวกจากการปรับปรุงสาขาที่จะทยอยแล้วเสร็จช่วงปลายเดือน พ.ย. 2025 การลดระยะเวลาในการปรับปรุงสาขาเทียบกับปี 2025 และโครงการคนละครึ่งพลัสเฟส2 ที่จะช่วยหนุน Sentiment การบริโภค • ในแง่ของ SSSG ที่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ส่วนนึงเผชิญแรงกดดันจากการลดลงของสินค้า non-food (ตามรูปหน้าที่3) ซึ่งเป็น Category ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง โดยบริษัทปรับตัวโดยการเพิ่มการซื้อตรงกับผู้ผลิต นำเสนอสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง เพิ่มสัดส่วนสินค้า House brands นอกจากนี้ยังเผชิญกับภาวะกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลงกดดันยอดขายสินค้าอาหารแห้ง • BJC จัดตั้งบริษัทร่วมทุน (Joint Venture) กับ DHL ลงทุนราว 1 พันล้านบาทสร้างคลังสินค้าและรถขนส่งใน 5 ปีข้างหน้า โดยคาดหวังการลดต้นทุน 360 ล้านบาท ภายใน 3 ปีข้างหน้า โดยมีแผนขยายไปยังลูกค้าใหม่ในธุรกิจขนส่งสินค้าที่เกี่ยวกับการแพทย์ พร้อมตั้งเป้ายอดขายกลุ่ม Healthcare โต 3 เท่า ใน 5 ปีข้างหน้า คำแนะนำ “ถือ” มีความท้าทายของพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง มูลค่าพื้นฐาน 20.00 บาท คำนวณด้วยวิธี PE Multiple ที่ 18xPE’26E ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยกลุ่มพาณิชย์ไทย (เดิม 22.00 บาท) หลังปรับลดประมาณการกำไรปี2025-26 ลง 4%-9% เพื่อสะท้อนการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมที่ฟื้นตัวช้ากว่าคาด และอัตรากำไรขั้นต้นธุรกิจค้าปลีกที่ยังคงมีแนวโน้มถูกกดดันจากการลดลงของสัดส่วนสินค้า non-food ตามกำลังซื้อผู้บริโภค และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค Analyst: Thanawich Boonchuwong Registration No.110556 Email: [email protected] |