รายงานการยื่นแบบไตรมาส 3 ของกองทุนเฮดจ์ฟันด์ชั้นนำในสหรัฐฯ พบว่า หลายกองทุนเริ่มลดน้ำหนักการถือครองหุ้นเมกะแคปในกลุ่ม 7 นางฟ้า (Magnificent Seven) โดยเฉพาะ Nvidia, Amazon, Alphabet และ Meta โดยหันไปเพิ่มน้ำหนักในหมวดซอฟต์แวร์ แอปพลิเคชัน อีคอมเมิร์ซ และระบบชำระเงิน ความเคลื่อนไหวดังกล่าว สะท้อนถึงการปรับพอร์ตเชิงป้องกันของนักลงทุนสถาบัน ท่ามกลางความผันผวนและความไม่แน่นอนของมูลค่าหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ในปัจจุบัน Bridgewater Associates ของเรย์ ดาลิโอ ซึ่งทำผลงานโดดเด่นในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2025 ลดสัดส่วนการถือหุ้น Nvidia ลงเกือบ 2 ใน 3 เหลือ 2.5 ล้านหุ้น และลดการถือหุ้น Alphabet ลงมากกว่า 50% เหลือ 2.65 ล้านหุ้น พร้อมลดสัดส่วนการถือหุ้น Amazon ลง 9.6% และ Broadcom ลงราว 27% ในทางกลับกัน Bridgewater เพิ่มน้ำหนักไปยังกลุ่มซอฟต์แวร์และระบบชำระเงิน โดยเข้าซื้อ Adobe, Dynatrace และ Etsy เพิ่ม ขณะที่บรรดาประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุน (CIO) ของกองทุนดังกล่าว ยังเตือนนักลงทุน ถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นต่อเสถียรภาพของตลาดในระยะกลาง ซึ่งปัจจุบัน Bridgewater บริหารสินทรัพย์รวม 92,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 
Discovery Capital ของร็อบ ซิทรอน เข้าซื้อหุ้นใหม่หลายตัว เช่น Alphabet รวมไปถึง Cleveland-Cliffs ผู้ผลิตเหล็ก และบริษัทประกันสุขภาพอย่าง Cigna และ Elevance Health นอกจากนี้ ยังเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในลาตินอเมริกา เพื่อกระจายจากสินทรัพย์สหรัฐฯ โดยในไตรมาส 3 Discovery ขายหุ้นกลุ่มสำรวจพลังงานหลายบริษัท เช่น EQT, Antero Resources และ Range Resources พร้อมเปิดสถานะใหม่ใน Baker Hughes และเพิ่มน้ำหนักในผู้ผลิตแร่สำคัญ Ramaco Resources โดยร็อบ ซิทรอน ซึ่งเคยชู America Movil เป็นหุ้นเด่น ปรับลดการถือครองลง 11.5% เหลือ 4.68 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าประมาณ 98.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ Balyasny Asset Management กองทุนของดิมิทรี บาลยัสนี เพิ่มสัดส่วนถือหุ้น Apple หลายเท่าตัว แม้ Berkshire Hathaway จะลดน้ำหนักลง ขณะเดียวกัน ยังลดถือหุ้น Amazon ลง 41% โดยบาลยัสนี ยังเพิ่มสัดส่วนในบริษัทประกัน AIG และ Allstate พร้อมเข้าลงทุนใหม่ในบริษัทโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล American Tower Tiger Global ของเชส โคลแมน ลดการถือหุ้น Meta ลงในไตรมาส 3 เหลือ 2.8 ล้านหุ้น มูลค่าราว 2,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมขายหุ้นบางบริษัท เช่น Eli Lilly, Novo Nordisk และ CrowdStrike แต่เปิดสถานะใหม่ใน Netflix และบริษัท Klarna ซึ่งให้บริการ Buy-Now-Pay-Later (BNPL) หรือ “ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง” Coatue Management ของฟิลิปป์ ลาฟงต์ ซึ่งมีการปรับพอร์ตหลายรายการ โดยเฉพาะในหุ้น AI ขนาดใหญ่ ลดการถือหุ้น Nvidia ลง 14.1% เหลือ 9.9 ล้านหุ้น สอดคล้องกับกองทุนที่ลดน้ำหนักก่อนหน้า เช่น Bridgewater และกองทุน Scion ของไมเคิล เบอร์รี ที่เพิ่งเตือนถึง “ฟองสบู่ AI” นอกจากนี้ ยังลดการถือหุ้น Tesla, Amazon, CoreWeave และ Arm Holdings ลงอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมขายทิ้งทั้ง Eli Lilly และ Philip Morris ในทางกลับกัน Coatue เพิ่มการถือครอง Microsoft, Meta และเพิ่มน้ำหนักลงทุนใน Alibaba ที่มา Reuters

|