CPALL เผยกำไรไตรมาส 3/68 อยู่ที่ 6,597 ล้านบาท และ 9 เดือน 20,950 ล้านบาท รับผลการดำเนินงานจากธุรกิจร้านสะดวกซื้อปรับตัวดีขึ้น - ควบคุมต้นทุน และ ค่าใช้จ่าย ขณะที่ยังเดินหน้าลงทุนเปิดร้านสาขาใหม่ในไทยให้ได้ 700 สาขาในปีนี้ จากงบลงทุนรวมปีนี้ที่ 12,000 – 13,600 ล้านบาท บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL เปิดเผยผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ว่า ไตรมาส 3/68 มีกำไรสุทธิจำนวน 6,597 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 17.6% ส่วน 9 เดือน ปี 68 บริษัทมีกำไรสุทธิที่ 20,950 ล้านบาท
สาเหตุหลักที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ดีขึ้น มาจากกลุ่มธุรกิจร้านสะดวกซื้อ และ ธุรกิจอื่น ๆ เป็นหลัก ประกอบกับ การควบคุมต้นทุน และ ค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ กำไรต่อหุ้นตามงบการเงินรวมในไตรมาส 3/68 มีจำนวนเท่ากับ 0.73 บาท และ มีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายและค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้จำนวน 12,462 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.7% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ทางด้านรายได้รวม 250,655 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น 3.9% โดยมีสาเหตุหลักมาจากการปรับเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายสินค้าของทุกกลุ่มธุรกิจ ซึ่งประกอบด้วยธุรกิจร้านสะดวกซื้อ ธุรกิจค้าส่งค้าปลีกและศูนย์การค้า และ กลุ่มธุรกิจอื่น ๆ นอกจากนี้ กลยุทธ์ O2O ของแต่ละหน่วยธุรกิจยังคงเป็นปัจจัยเสริมในการเติบโตของรายได้อีกทางหนึ่งด้วย สำหรับกำไรขั้นต้นจากการขายและบริการเท่ากับ 55,241 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.9% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุมาจากกลยุทธ์ด้านสินค้าในทุกกลุ่มธุรกิจที่สามารถนำเสนอสินค้าที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละช่วงเวลาเพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกำไร ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นในงบการเงินรวมของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 22.8% จาก 22.7% ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 
ส่วนแนวโน้มธุรกิจร้านสะดวกซื้อในปี 68 บริษัทวางแผนที่จะพัฒนาช่องทางการจำหน่ายสินค้าและบริการ ทั้งแพลตฟอร์มออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งรวมถึงการขยายเครือข่ายร้านสาขาต่อเนื่องไปตามการขยายตัวของชุมชน โครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ แหล่งท่องเที่ยว และ ทำเลที่มีศักยภาพอื่น ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกและเข้าถึงความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด ทั้งนี้บริษัทวางแผนที่จะลงทุนเปิดร้านสาขาใหม่ในประเทศไทยประมาณ 700 สาขาในปี 68 และ ในขณะที่รายได้จากการขายและบริการ อัตราการเติบโตของรายได้ ส่วนใหญ่มาจากอัตราการเติบโตของยอดขายจากร้านสาขาใหม่ และ อัตราการเติบโตของยอดขายเฉลี่ยจากร้านเดิม รวมถึงยอดขายจากช่องทางอื่น ๆ เช่น 7Delivery และ All Online ซึ่งคาดว่าจะอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับจีดีพี ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น สภาวะเศรษฐกิจ ระดับของอัตราเงินเฟ้อ ราคาวัตถุดิบ ราคาพลังงาน และ การขยายตัวของการบริโภคภายในประเทศ ด้านอัตรากำไรขั้นต้น บริษัทตั้งเป้าขยายอัตรากำไรขั้นต้นให้ได้อย่างต่อเนื่องจากปีก่อน โดยเน้นการพัฒนาระบบในการคัดสรรสินค้าให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น และ ผลักดันให้มีสัดส่วนของสินค้าที่กำไรขั้นต้นสูงเพิ่มขึ้น ทั้งจากสินค้ากลุ่มอาหาร และ เครื่องดื่ม และ สินค้าอุปโภค สำหรับปี 2568 บริษัทคาดการณ์งบลงทุนประมาณ 12,000 – 13,600 ล้านบาท แบ่งเป็น การเปิดร้านสาขาใหม่ 3,800 – 4,600 ล้านบาท , การปรับปรุงร้านเดิม 2,900 – 3,500 ล้านบาท , โครงการใหม่ และ บริษัทย่อยและศูนย์กระจายสินค้า 4,000 – 4,100 ล้านบาท , สินทรัพย์ถาวร และ ระบบสารสนเทศ 1,300 – 1,400 ล้านบาท |