ตลาดแรงงานสหรัฐฯ ส่งสัญญาณชะลอตัวมากขึ้นในเดือนพ.ย. ตามรายงานของ ADP ซึ่งระบุว่า บริษัทเอกชนปลดพนักงานไปราว 32,000 ตำแหน่ง โดยธุรกิจขนาดเล็กเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบหนักมากที่สุด ขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการจาก S&P Global ชี้ภาคบริการสหรัฐฯ เดือนพ.ย. ชะลอตัวลงมาอยู่ที่ 54.1 ต่ำสุดนับจากเดือนมิ.ย. ตัวเลขการจ้างงานล่าสุดซบเซากว่าที่คาดไว้ และต่างจากเดือนต.ค. อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งขณะนั้นมีการปรับทบทวนตัวเลขเพิ่มขึ้น ส่งผลให้การจ้างงานเพิ่มเป็น 47,000 ตำแหน่ง อีกทั้งยังต่ำกว่าผลสำรวจของ Dow Jones ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 40,000 ตำแหน่ง ในทางกลับกัน ธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีพนักงานตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป มียอดจ้างงานสุทธิเพิ่มขึ้น 90,000 ตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม ธุรกิจที่มีพนักงานน้อยกว่า 50 คน ปรับลดการจ้างงานลงถึง 120,000 ตำแหน่ง โดยกลุ่มกิจการที่มีพนักงาน 20–49 คน จ้างงานลดลง 74,000 ตำแหน่ง โดยยอดลดลงรวมครั้งนี้ ถือเป็นการหดตัวมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค. 2023 ภาคบริการด้านการศึกษาและสาธารณสุข เป็นผู้นำการจ้างงานเพิ่มขึ้น 33,000 ตำแหน่ง ขณะที่ภาคสันทนาการและการบริการเพิ่มขึ้น 13,000 ตำแหน่ง แต่ภาพรวมยังลดลงเกือบทุกอุตสาหกรรม ขณะที่ภาคส่วนที่มีการลดลงสูงสุด คือบริการด้านวิชาชีพและธุรกิจ ซึ่งลดลง 26,000 ตำแหน่ง ขณะเดียวกัน ภาคบริการด้านสารสนเทศลดลง 20,000 ตำแหน่ง ภาคการผลิตลดลง 18,000 ตำแหน่ง ส่วนภาคการเงินและภาคก่อสร้างต่างลดลง 9,000 ตำแหน่ง ด้านอัตราการเติบโตของค่าจ้างชะลอตัวลงเช่นกัน โดยพนักงานที่ยังคงทำงานเดิมได้รับค่าจ้างเพิ่มขึ้น 4.4% เมื่อเทียบรายปี ลดลงเล็กน้อย 0.1 จุดเปอร์เซ็นต์จากเดือน ต.ค. 
เนลา ริชาร์ดสัน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ ADP ระบุว่า การจ้างงานยังมีความผันผวนในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากผู้บริโภคระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น และภาวะแวดล้อมเศรษฐกิจมหภาคที่มีความไม่แน่นอน พร้อมเสริมว่าแม้การชะลอตัวในเดือน พ.ย. จะเกิดขึ้นในหลายอุตสาหกรรม แต่แรงกดดันหลักมาจากกลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก ทั้งนี้ รายงานของ ADP ถือเป็นข้อมูลด้านการจ้างงานชุดสุดท้าย ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะประชุมในวันที่ 9–10 ธ.ค. โดยนักลงทุนในตลาดฟิวเจอร์สให้ความเป็นไปได้เกือบ 90% ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% แม้มีเจ้าหน้าที่บางส่วนกังวลว่า การผ่อนคลายเพิ่มเติมอาจไม่จำเป็นก็ตาม ขณะที่รายงานล่าสุดในฝั่งภาคบริการของสหรัฐฯ S&P Global เผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการ เดือนพ.ย. ชะลอตัวมาอยู่ที่ 54.1 ต่ำสุดนับจากเดือนมิ.ย. ลดลงจากระดับ 54.8 ในเดือนต.ค. และต่ำกว่าคาดการณ์เบื้องต้นที่ 55.0 อย่างไรก็ดี ดัชนี PMI ล่าสุด ยังอยู่ในโซนเหนือกว่า 50 ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคบริการของสหรัฐฯ ยังมีการขยายตัว ทั้งนี้ กิจกรรมภาคบริการเดือนพ.ย. ยังคงได้รับปัจจัยบวกจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนธุรกิจใหม่ ซึ่งเพิ่มขึ้นในระดับที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2024 รวมถึงรายงานเกี่ยวกับสภาวะตลาดที่เอื้ออำนวยมากขึ้นและความต้องการพื้นฐานสำหรับบริการที่แข็งแกร่งขึ้น ขณะที่การส่งออกปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน แม้ว่าการเติบโตจะอยู่ในระดับเล็กน้อยก็ตาม ขณะที่ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจกลับมาเพิ่มขึ้นเช่นกัน หลังสิ้นสุดของการชัตดาวน์ของรัฐบาล โดยมุมมองต่อแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีหน้ายังปรับตัวดีขึ้น ที่มา CNBC  |