พาณิชย์ เผยมูลค่าส่งออกเดือน ก.ย. ฟื้นตัวแข็งแกร่งเกินคาด ขยายตัวร้อยละ 19.0 สูงสุดในรอบ 42 เดือน จากอุปสงค์สินค้าอุตสาหกรรมที่เติบโตต่อเนื่อง ท่ามกลางแรงกดดันทางการค้าโลก ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ขยายตัวที่ร้อยละ 7 นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) แถลงการส่งออกของไทยในเดือนกันยายน 2568 มีมูลค่า 30,970.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1,000,905 ล้านบาท) ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 15 ที่ร้อยละ 19.0 ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวสูงสุดในรอบ 42 เดือน นับตั้งแต่เดือนเมษายน 2565 หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัวที่ร้อยละ 15.7 การส่งออกขยายตัวในอัตราเร่งขึ้นตามความชัดเจนของมาตรการภาษีนำเข้าต่างตอบแทนของสหรัฐฯ ประกอบกับสัญญาณการผ่อนคลายนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้บรรยากาศการค้าโลกฟื้นตัว การส่งออกไปยังตลาดหลักและตลาดรองกลับมาขยายตัวสูง อย่างไรก็ตาม การส่งออกสินค้าเกษตรของไทยยังคงอยู่ในภาวะหดตัว ทั้งนี้ การส่งออก 9 เดือนแรกของปี 2568 ขยายตัวที่ร้อยละ 13.9 หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัวที่ร้อยละ 13.6 
มูลค่าการค้าในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐ เดือนกันยายน 2568 การส่งออก มีมูลค่า 30,970.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 19.0 เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 29,695.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 17.2 ดุลการค้า เกินดุล 1,275.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ภาพรวม 9 เดือนแรกของปี 2568 การส่งออก มีมูลค่า 254,146.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 13.9 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 254,575.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 11.9 ดุลการค้า ขาดดุล 429.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มูลค่าการค้าในรูปเงินบาท เดือนกันยายน 2568 การส่งออก มีมูลค่า 1,000,905 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 12.4 เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 971,760 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 10.7 ดุลการค้า เกินดุล 29,145 ล้านบาท ภาพรวม 9 เดือนแรกของปี 2568 การส่งออก มีมูลค่า 8,397,219 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 5.6 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 8,516,656 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 3.8 ดุลการค้า ขาดดุล 119,437 ล้านบาท มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร หดตัวร้อยละ 8.1 (YoY) หดตัวต่อเนื่อง 2 เดือน โดยสินค้าเกษตร หดตัวร้อยละ 18.2 หดตัวต่อเนื่อง 2 เดือน ในขณะที่สินค้าอุตสาหกรรมเกษตร ขยายตัวร้อยละ 4.1 กลับมาขยายตัวในรอบ 3 เดือน โดยมีสินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ ไก่แปรรูป ขยายตัวร้อยละ 9.7 ขยายตัวต่อเนื่อง 19 เดือน (ขยายตัวในตลาดญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร เนเธอร์แลนด์ สิงคโปร์ และไอร์แลนด์) ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ ขยายตัวร้อยละ 37.8 ขยายตัวต่อเนื่อง 2 เดือน (ขยายตัวในตลาดอินเดีย จีน มาเลเซีย เกาหลีใต้ และอินโดนีเซีย) ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูปอื่น ๆ ขยายตัวร้อยละ 11.1 ขยายตัวต่อเนื่อง 21 เดือน (ขยายตัวในตลาดจีน สหรัฐฯ ลาว เวียดนามและญี่ปุ่น) น้ำตาลทราย ขยายตัวร้อยละ 42.8 กลับมาขยายตัวหลังจากหดตัวในเดือนก่อนหน้า (ขยายตัวในตลาดฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ลาว ปากีสถาน และนิวซีแลนด์) กุ้งสดแช่เย็นแช่แข็ง ขยายตัวร้อยละ 5.9 ขยายตัวต่อเนื่อง 5 เดือน (ขยายตัวในตลาดจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เมียนมา และแคนาดา) ขณะที่สินค้าสำคัญที่หดตัว อาทิ ข้าว หดตัวร้อยละ 31.4 หดตัวต่อเนื่อง 11 เดือน (หดตัวในตลาดสหรัฐฯ อิรัก แอฟริกาใต้ เบนิน และเซเนกัล แต่ขยายตัวในตลาดจีน โกตดิวัวร์ แคนาดา มาเลเซีย และฮ่องกง) ยางพารา หดตัวร้อยละ 15.3 หดตัวต่อเนื่อง 5 เดือน (หดตัวในตลาดญี่ปุ่น สหรัฐฯ มาเลเซีย เวียดนาม และเกาหลีใต้ แต่ขยายตัวในตลาดจีน ตุรกี เยอรมนี ปากีสถาน และโรมาเนีย) ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง หดตัวร้อยละ 55.5 หดตัวต่อเนื่อง 2 เดือน (หดตัวในตลาดจีน สหรัฐฯ เกาหลีใต้ เวียดนาม และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แต่ขยายตัวในตลาดอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฮ่องกง สิงคโปร์ และญี่ปุ่น) ทั้งนี้ 9 เดือนแรกของปี 2568 การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ขยายตัวร้อยละ 0.6 มูลค่าการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม ขยายตัวร้อยละ 26.4 (YoY) ขยายตัวต่อเนื่อง 18 เดือน โดยมีสินค้าสำคัญที่ขยายตัว อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ขยายตัวร้อยละ 57.9 ขยายตัวต่อเนื่อง 18 เดือน (ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ จีน เนเธอร์แลนด์ สิงคโปร์ และมาเลเซีย) รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ขยายตัวร้อยละ 14.6 กลับมาขยายตัวหลังจากหดตัวในเดือนก่อนหน้า (ขยายตัวในตลาดออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เม็กซิโก ซาอุดีอาระเบีย และแอฟริกาใต้) อัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำ) ขยายตัวร้อยละ 16.9 ขยายตัวต่อเนื่อง 11 เดือน (ขยายตัวในตลาดฮ่องกง อินเดีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหราชอาณาจักร และเยอรมนี) เครื่องโทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ขยายตัวร้อยละ 64.9 ขยายตัวต่อเนื่อง 4 เดือน (ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ สิงคโปร์ เม็กซิโก ไอร์แลนด์ และสาธารณรัฐเช็ก) เ ขณะที่สินค้าสำคัญที่หดตัว อาทิ สินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน หดตัวร้อยละ 11.7 หดตัวต่อเนื่อง 6 เดือน (หดตัวในตลาดเวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และฟิลิปปินส์ แต่ขยายตัวในตลาดจีน อินเดีย สิงคโปร์ ลาว และเบลเยี่ยม) เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ หดตัวร้อยละ 5.9 หดตัวต่อเนื่อง 2 เดือน (หดตัว ในตลาดออสเตรเลีย อินเดีย เวียดนาม สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และตุรกี แต่ขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฝรั่งเศส และอิตาลี) อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์และไดโอด หดตัวร้อยละ 16.3 หดตัวต่อเนื่อง 19 เดือน (หดตัวในตลาดสหรัฐฯ ฮ่องกง มาเลเซีย เม็กซิโก และอินโดนีเซีย แต่ขยายตัวในตลาดญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน อินเดีย และเกาหลีใต้) เครื่องรับวิทยุ โทรทัศน์และส่วนประกอบ หดตัวร้อยละ 17.0 หดตัวต่อเนื่อง 4 เดือน (หดตัวในตลาดสหรัฐฯ อินเดีย อินโดนีเซีย เยอรมนี และมาเลเซีย แต่ขยายตัวในตลาดญี่ปุ่น บราซิล ฮ่องกง เวียดนาม และสิงคโปร์) ทั้งนี้ 9 เดือนแรกของปี 2568 การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม ขยายตัวร้อยละ 18.6 การส่งออกไปตลาดสำคัญส่วนใหญ่ขยายตัว โดยการส่งออกไปสหรัฐฯ ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง แม้เผชิญกับอัตราภาษีนำเข้าในอัตราที่สูง ขณะเดียวกันการส่งออกไปตลาดอื่น ๆ ทั้ง จีน ญี่ปุ่น และอาเซียน (5) และในตลาดรอง อาทิ เอเชียใต้ ทวีปออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง และลาตินอเมริกา ล้วนขยายตัว สะท้อนถึงการตอบสนองต่อมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ด้วยการกระจายตลาดทางเลือกใหม่ แนวโน้มการส่งออกในช่วงที่เหลือของปี 2568 คาดว่าจะยังคงขยายตัว แม้จะอยู่ในอัตราที่ชะลอลง โดยได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัล รวมถึงสินค้าเกษตรแปรรูปและอาหารที่ยังคงมีความต้องการ ในตลาดโลก อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม ได้แก่ มาตรการตอบโต้ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่สร้างแรงกดดันและความผันผวนต่อห่วงโซ่อุปทานโลก ความเสี่ยงจากภาวะชัตดาวน์ของสหรัฐฯ ที่อาจยืดเยื้อและส่งผลกระทบต่อการขนส่งสินค้า ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้เร่งขับเคลื่อนนโยบายหลายด้าน ทั้งการเจรจากับคู่ค้าเพื่อเพิ่มการนำเข้า เร่งปิดดีล FTA ที่อยู่ระหว่างเจรจา เข้มงวดการตรวจสอบถิ่นกำเนิดสินค้าในกลุ่มเฝ้าระวัง รวมถึงสร้างความเป็นธรรมให้ผู้ประกอบการไทย เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการส่งออกที่ตั้งไว้ อนึ่ง ตัวตัวเลขส่งออก-นำเข้าของไทยประจำเดือนกันยายน ตลาดคาดการณ์ขยายตัวที่ระดับ 7.2% และ 10.4% ตามลำดับ 
|