คมนาคม เตรียมเสนอครม. 18 พ.ย. นี้ จัดแพ็กเกจเดินทางแบบ “เหมาจ่ายรายวัน” สำหรับรถไฟฟ้าสายสีแดง–สีม่วง เริ่มใช้ 1 ธ.ค. นี้ ต่อยอดนโยบายรถไฟฟ้า "20 บาทตลอดสาย" พร้อมเดินทางศึกษาแนวทางซื้อคืนรถไฟฟ้า ก่อนให้ รฟม.เป็นผู้บริหาร ให้ได้ข้อสรุปใน 90 วัน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินนโยบายการกำหนดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าเพื่อลดภาระค่าครองชีพของประชาชน ครั้งที่ 1/2568 โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบแนวทางการจัดทำ “บัตรโดยสารเหมาจ่ายรายวัน” สำหรับรถไฟฟ้าสายสีแดงและสายสีม่วง เพื่อให้ประชาชนเดินทางได้สะดวก คุ้มค่า และต่อเนื่องภายใต้นโยบาย “ลดภาระค่าใช้จ่ายประชาชน” ของรัฐบาล โดยเตรียมเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไม่เกิน 18 พ.ย.นี้ เพื่อให้มีผลใช้ต่อเนื่องจากมาตรการเดิมจะสิ้นสุดในวันที่ 30 พ.ย.2568 ทำให้แพ็กเกจเหมาจ่ายรายวัน จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.2568 – 30 พ.ย. 2569 ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชน แบ่งเป็น 
- บุคคลทั่วไป เดินทางไม่จำกัดเที่ยวในวันเดียวเพียง 40 บาท/วัน
- นักเรียน - นักศึกษา จ่ายเพียง 30 บาท/วัน
- ผู้สูงอายุ ครึ่งราคา ผู้พิการและเด็ก ฟรี
- ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ใช้วงเงินในบัตร 750 บาท/เดือน ได้ตามสิทธิ
บัตรเหมาจ่ายดังกล่าวจะใช้ได้ทั้ง รถไฟชานเมืองสายสีแดง และรถไฟฟ้ามหานครสายสีม่วง ด้วยระบบ EMV Contactless MRT EMV Mangmoom EMV ซึ่งจะเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างสองสายได้อย่างไร้รอยต่อ ช่วยให้ผู้โดยสารที่ต้องเดินทางหลายเที่ยวต่อวันสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ชัดเจนและคุ้มค่ามากขึ้น นอกจากลดภาระค่าครองชีพแล้ว มาตรการนี้ยังช่วยกระตุ้นให้ประชาชนหันมาใช้ระบบรางมากขึ้น ลดปัญหารถติด และลดมลพิษในเมืองใหญ่ โดยเป็นแนวทางที่ปรับปรุงเพิ่มเติมของนโยบาย “20 บาทตลอดสาย” ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากประชาชนตลอดสองปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายภาครัฐ รัฐอุดหนุนงบประมาณเฉพาะกลุ่ม และสร้างแรงจูงใจในการใช้ระบบขนส่งสาธารณะของพี่น้องประชาชน นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบแนวทางรวมศูนย์การบริหารจัดการระบบรถไฟฟ้าแบบองค์รวม หรือ “Single Ownership” โดยมอบหมายให้ รฟม. เป็นหน่วยงานหลักในการบริหารนโยบาย ค่าโดยสาร และระบบตั๋วร่วมของประเทศ เพื่อให้ทุกโครงการรถไฟฟ้าอยู่ภายใต้นโยบายเดียวกันอย่างมีเอกภาพ ที่ประชุมยังเห็นชอบแนวทางรวมศูนย์การบริหารจัดการระบบรถไฟฟ้าแบบองค์รวม หรือ Single Ownership ซึ่งพบว่าแนวทางที่เหมาะสมหากต้องมีหน่วยงานบริหารรถไฟฟ้าเพียงรายเดียว ควรเป็นการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ซึ่งจะสามารถบริหารนโยบาย ค่าโดยสาร และระบบตั๋วร่วมของประเทศ เพื่อให้ทุกโครงการรถไฟฟ้าอยู่ภายใต้นโยบายเดียวกันอย่างมีเอกภาพ
โดยแนวคิด Single Ownership สอดคล้องกับพระราชบัญญัติการบริการจัดการระบบตั๋วร่วม (Common Ticket Act) ที่อยู่ระหว่างขั้นตอนประกาศใช้ ซึ่งเมื่อมีผลบังคับแล้วจะกลไกหลักในการกำหนดระบบค่าโดยสารร่วม (Common Fare) หรือตั๋วร่วม ทำให้การเดินทางของประชาชนสามารถเชื่อมต่อระบบรถไฟฟ้าอย่างสะดวกด้วยบัตรใบเดียว และไม่มีค่าแรกเข้า แนวทางดังกล่าวจำเป็นต้องมีการนำโครงการรถไฟฟ้าทั้งหมดกลับมาเป็นของรัฐ เพื่อให้ รฟม.เป็นผู้บริหารจัดการต่อ ดังนั้นต้องหารือกับเอกชนผู้บริหารรถไฟฟ้าทั้ง 2 ราย คือ BTS และ BEM เพื่อซื้อคืนสัมปทานรถไฟฟ้า และอาจจ้างให้เอกชนเป็นผู้บริหารจัดเก็บรายได้ส่งรัฐ เนื่องจากเอกชนเป็นผู้ทำธุรกิจนี้ที่เข้าใจการบริหารเป็นอย่างดี ทั้งนี้ต้องให้กระทรวงการคลังศึกษาแนวทางการซื้อคืนรถไฟฟ้า เพื่อให้เหมาะสมในการจัดหาแหล่งเงิน จำเป็นต้องจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาแนวทางร่วมกัน โดยนายกรัฐมนตรีให้เร่งรัด วางกรอบดำเนินการให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนภายใน 90 วัน  |