SNNP หวังปีนี้รายได้โตระดับตัวเลขหลักเดียว ระบุ Q4/68 ผลงานสดใสรับไฮซีซั่นทั้งในไทย-เวียดนาม พร้อมรับมาตรการคนละครึ่งพลัสหนุนการบริโภค ระบุเดินหน้ารุก อินโดฯ-มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ เพิ่มชดเชยยอดขายในกัมพูชาที่หายไป นายวิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ และ นายศุภโชค บำรุงพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานบัญชีและการเงิน บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP เปิดเผยในงาน Opportunity Day ว่า ภาพรวมทั้งปี 68 คาดรายได้เติบโตในระดับอัตราตัวเลขหลักเดียว (one single digit)
โดยภาพรวมในช่วงไตรมาส 4/68 ในประเทศถือเป็นช่วงไฮซีซั่นธุรกิจซึ่งดีกว่าทุกๆ ไตรมาส ซึ่งแม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศช่วงที่ผ่านมาชะลอตัว แต่เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น รวมถึงภาครัฐบาลประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา ทั้ง คนละครึ่งพลัส, บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คาดว่าจะช่วยสนับสนุนการบริโภคภายในประเทศ รวมถึงการบริโภคสินค้าในเครือ SNNP ซึ่งในไตรมาสนี้เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่อีก 1 ตัว คาดว่าจะรับรู้รายได้เต็มที่ในช่วงปี 69 เป็นต้นไป
ด้านแนวโน้มตลาดในต่างประเทศโดยเฉพาะเวียดนาม ถือว่าเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจเช่นกัน ซึ่งทิศทางในอนาคตยังมีแนวโน้มเติบโตตามสภาวะเศรษฐกิจและประชากรมีรายได้ต่อหัวเพิ่มมากขึ้น ด้านร้านค้าปลีกส่งสัญญาณเติบโต
อย่างไรก็ตามรายได้จากเมียนมาที่หายไปชั่วคราวจากมาตรการเก็บภาษีของรัฐบาลเมียนมาตามด่านภาคพื้นดิน คาดว่าสถานการณ์ต่างๆ จะเริ่มคลี่คลายในปี 69 และประเทศกัมพูชาที่รายได้หายไปจากปัญหาชายแดน โดยทั้ง 2 ประเทศนี้คิดเป็นสัดส่วนรายได้รวมทั้งบริษัทประมาณ 3% ซึ่งบริษัทฯ เตรียมรุกตลาดในประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ ชดเชยแทนรายได้จากกัมพูชาที่หายไป ทั้งนี้รายได้จากต่างประเทศคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20% ของรายได้รวมทั้งหมด โดยยอมรับว่าภาพรวมยอดขายจากต่างประเทศในปีนี้อาจชะลอตัวเมื่อเทียบปี 67 จากผลกระทบของทั้งสองประเทศดังกล่าว

สำหรับแนวทางกลยุทธ์บริษัทฯ ยังมุ่งเน้นจำหน่ายในสินค้าค้าหลัก ทั้ง Bento ซึ่งครองส่วนแบ่งทางการตลาดปลาหมึกทอด 78% และ Jele มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 หรือที่ระดับ 87.6% ซึ่งโดยบริษัทฯ ยังดำเนินกลยุทธ์ต่อยิดสินค้าแบรนด์หลักๆ ทั้ง Bento, Jele, โลตัส รวมถึงประโยชน์จากช่องทางมาตรการรัฐฯ เช่น คนละครึ่งพลัส รวมถึงช่องทางใหม่อื่นๆ ที่จะช่วยเสริมรายได้ให้เติบโต ทั้งสื่อโฆษณา, แอพพลิเคชั่นต่างๆ และการทำในสิ่งที่กำลังเป็นที่นิยมในตลาดหรือตามกระแส
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังดำเนินโครงการลดต้นทุน (Cost-Saving) โดยในปี 68 บริษัทน ตั้งเป้าลด 136 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 9 เดือนแรกทำได้แล้ว 60% ทั้งการลดต้นทุนการผลิต โดยมองกระบวนการตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ระบบอัตโนมัติ การซื้อวัตถุดิบ พลังงานที่ใช้ในกระบวนการผลิต ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยให้ต้นทุนอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้น

|