ข่าวหุ้นไทย28 ต.ค. 2568 17:29 น.จีนเดินหน้าขยายข้อตกลง FTA กับอาเซียน รับมือสหรัฐฯ รุกคืบ - ประณามการกลั่นแกล้งทางเศรษฐกิจจีนเดินหน้าขยายข้อตกลง FTA กับอาเซียน รับมือสหรัฐฯ รุกคืบ - ประณามการกลั่นแกล้งทางเศรษฐกิจstar_borderefinAI สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -28 ต.ค. 68 17:29 น. จีน-อาเซียน ลงนามขยายความร่วมมือในข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) เร่งกระชับความร่วมมือในภูมิภาค ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เดินหน้าโน้มน้าวเพื่อบรรลุข้อตกลงการค้าในอาเซียน สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า หลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน และอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามขยายความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (China-Asean Free Trade Area - CAFTA) ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ครอบคลุมการให้คำมั่นว่าจะลดอุปสรรคทางการค้าและเปิดทางไปสู่การสร้างเศรษฐกิจสีเขียว (Green economy) ซึ่งอาจช่วยให้จีนสามารถเพิ่มการส่งออกและชดเชยผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ข้อตกลงครั้งนี้มีชื่อว่า “CAFTA 3.0” มีการกำหนดขอบเขตใหม่ ๆ รวมถึงเศรษฐกิจสีเขียวและการเชื่อมโยงของห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งแสดงถึงโอกาสในการคว้าชัยชนะทางยุทธศาสตร์สำหรับจีนที่กำลังมองหาตลาดใหม่ ๆ เพื่อรองรับกำลังการผลิตเชิงอุตสาหกรรมขนาดใหญ่สำหรับสินค้าในกลุ่มแผงโซลาร์เซลล์, แบตเตอรี่ และรถยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยแถลงการณ์จากกระทรวงพาณิชย์จีนเผยว่า ข้อตกลงนี้จะอำนวยความสะดวกทางการค้าในผลิตภัณฑ์สีเขียว ที่ออกแบบและผลิตโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม รวมถึงการให้คำมั่นว่า ทั้งสองฝ่ายจะไม่นำมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม มาใช้เป็นเครื่องมือในการกีดกันทางการค้าด้วยวิธีการปิดบังอำพราง ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์เสร็จสิ้นภารกิจการเยือนภูมิภาคอาเซียน และบรรลุข้อตกลงที่ช่วยให้สหรัฐฯ เข้าถึงแร่ธาตุหายากได้มากขึ้น พร้อมทั้งยกเว้นการเก็บภาษีสินค้าส่งออกบางรายการของภูมิภาคไปยังสหรัฐฯ ข้อตกลงทางการค้าเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออาเซียน ซึ่งปัจจุบันขายสินค้าให้กับสหรัฐฯ มากกว่าจีน นายหลี่ เฉียง ยังฉายภาพบทบาทของจีนในฐานะผู้สนับสนุนการค้าเสรี และเรียกร้องความเป็นเอกภาพกับกลุ่มอาเซียน โดยพูดในเชิงกล่าวโทษว่า สหรัฐฯ กำลังสร้างความแตกแยกในภูมิภาค แต่ไม่ได้พาดพิงโดยตรง “การแทรกแซงภูมิภาคจากภายนอกกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และมีหลายประเทศถูกเก็บภาษีที่สูงอย่างไม่สมเหตุสมผล ความไร้เอกภาพและการเผชิญหน้ากัน เมื่อเผชิญกับการกลั่นแกล้งที่รุนแรงทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจ นอกจากจะไม่สร้างประโยชน์ใด ๆ ยังนำไปสู่การแบ่งแยกและการครอบงำจากอำนาจภายนอก” ที่มา Blooomberg efinAI แท็กที่เกี่ยวข้องจีน-อาเซียนFTAข้อตกลงการค้าเสรีจีน-อาเซียนภาษีนำเข้าABOUT THE AUTHORSupak Hopuengjureporter
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -28 ต.ค. 68 17:29 น. จีน-อาเซียน ลงนามขยายความร่วมมือในข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) เร่งกระชับความร่วมมือในภูมิภาค ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เดินหน้าโน้มน้าวเพื่อบรรลุข้อตกลงการค้าในอาเซียน สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า หลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน และอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามขยายความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (China-Asean Free Trade Area - CAFTA) ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ครอบคลุมการให้คำมั่นว่าจะลดอุปสรรคทางการค้าและเปิดทางไปสู่การสร้างเศรษฐกิจสีเขียว (Green economy) ซึ่งอาจช่วยให้จีนสามารถเพิ่มการส่งออกและชดเชยผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ข้อตกลงครั้งนี้มีชื่อว่า “CAFTA 3.0” มีการกำหนดขอบเขตใหม่ ๆ รวมถึงเศรษฐกิจสีเขียวและการเชื่อมโยงของห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งแสดงถึงโอกาสในการคว้าชัยชนะทางยุทธศาสตร์สำหรับจีนที่กำลังมองหาตลาดใหม่ ๆ เพื่อรองรับกำลังการผลิตเชิงอุตสาหกรรมขนาดใหญ่สำหรับสินค้าในกลุ่มแผงโซลาร์เซลล์, แบตเตอรี่ และรถยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยแถลงการณ์จากกระทรวงพาณิชย์จีนเผยว่า ข้อตกลงนี้จะอำนวยความสะดวกทางการค้าในผลิตภัณฑ์สีเขียว ที่ออกแบบและผลิตโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม รวมถึงการให้คำมั่นว่า ทั้งสองฝ่ายจะไม่นำมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม มาใช้เป็นเครื่องมือในการกีดกันทางการค้าด้วยวิธีการปิดบังอำพราง ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์เสร็จสิ้นภารกิจการเยือนภูมิภาคอาเซียน และบรรลุข้อตกลงที่ช่วยให้สหรัฐฯ เข้าถึงแร่ธาตุหายากได้มากขึ้น พร้อมทั้งยกเว้นการเก็บภาษีสินค้าส่งออกบางรายการของภูมิภาคไปยังสหรัฐฯ ข้อตกลงทางการค้าเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออาเซียน ซึ่งปัจจุบันขายสินค้าให้กับสหรัฐฯ มากกว่าจีน นายหลี่ เฉียง ยังฉายภาพบทบาทของจีนในฐานะผู้สนับสนุนการค้าเสรี และเรียกร้องความเป็นเอกภาพกับกลุ่มอาเซียน โดยพูดในเชิงกล่าวโทษว่า สหรัฐฯ กำลังสร้างความแตกแยกในภูมิภาค แต่ไม่ได้พาดพิงโดยตรง “การแทรกแซงภูมิภาคจากภายนอกกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และมีหลายประเทศถูกเก็บภาษีที่สูงอย่างไม่สมเหตุสมผล ความไร้เอกภาพและการเผชิญหน้ากัน เมื่อเผชิญกับการกลั่นแกล้งที่รุนแรงทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจ นอกจากจะไม่สร้างประโยชน์ใด ๆ ยังนำไปสู่การแบ่งแยกและการครอบงำจากอำนาจภายนอก” ที่มา Blooomberg