Deutsche Bank ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาทองคำปี 2026 เพิ่มขึ้น โดยยกระดับราคาเป้าหมายจาก 4,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ เป็น 4,450 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ โดยให้เหตุผลว่ากระแสเงินลงทุนเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น ขณะที่อุปสงค์จากธนาคารกลางทั่วโลกยังคงแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ราคาทองคำ ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบสัปดาห์ จากแรงหนุนคาดการณ์เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยในธ.ค. ธนาคารระบุว่า คาดการณ์ปัจจุบันของกรอบการเคลื่อนไหวราคาทองคำในปีหน้า จะอยู่ที่ระดับ 3,950–4,950 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ โดยช่วงบนของกรอบดังกล่าว สูงกว่าราคาสัญญาทองคำล่วงหน้าบน COMEX งวดส่งมอบเดือนธ.ค. 2026 อยู่ราว 14% รายงานของ Deutsche Bank ระบุว่า โครงสร้างระยะยาวของตลาด ยังอยู่ในช่วงบวก โดยการเข้าซื้อของธนาคารกลางร่วมกับกระแสเงินลงทุนผ่านกองทุน ETF ที่ช่วยดูดซับปริมาณทองคำส่วนใหญ่ในตลาด ทำให้เหลือป้อนสู่ตลาดเครื่องประดับลดลง ขณะที่อุปสงค์รวมยังคงสูงกว่าอุปทานอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งยังประเมินว่ากระแสเงินไหลเข้าสู่กองทุน ETF จะช่วยพยุงราคาทองคำในปีหน้า โดยคาดว่าระดับ 3,900 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์จะเป็นแนวรับสำคัญ นอกจากนี้ ยังระบุว่า การขาดแคลนในตลาดเงินโลหะมีค่าหลายชนิด ทั้งโลหะเงิน แพลทินัม และพัลลาเดียม ที่ยืดเยื้อมาหลายปี จะทำให้ราคาของโลหะเหล่านี้ ตอบสนองต่อความแข็งแกร่งของทองคำมากขึ้น โดยอัตราค่าเช่าทองคำที่ยังอยู่ในระดับสูง สะท้อนถึงภาวะตึงตัวอย่างต่อเนื่องในตลาดทองคำจริง สำหรับปี 2027 Deutsche Bank ยังคงคาดการณ์ราคาทองคำไว้ที่ 5,150 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ โดยระบุว่าตัวเลขดังกล่าวเป็นการสะท้อนความไม่แน่นอนระหว่างภาวะปกติและสถานการณ์ที่ความต้องการจากภาครัฐยังอยู่ในระดับสูง 
ด้านความเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ ความสัมพันธ์เชิงบวกของราคาทองคำกับสินทรัพย์เสี่ยง การผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่อาจน้อยกว่าที่ตลาดคาดในปี 2026 รวมถึงโอกาสที่ธนาคารกลางหลายประเทศ อาจชะลอการซื้อทองคำลง ทั้งนี้ นับตั้งแต่ต้นปี ราคาทองคำสปอตปรับเพิ่มขึ้นแล้ว 59% มุ่งหน้าสู่การทำผลงานรายปีดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 1979 โดยทองคำทำสถิติสูงสุดตลอดกาลที่ 4,381.21 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ เมื่อวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ราคาทองคำขยับขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. ซึ่งช่วยให้ทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนดอกเบี้ย กลับมามีความโดดเด่นอีกครั้งในสายตาของนักลงทุน ราคาทองคำสปอตปรับขึ้น 0.8% สู่ระดับ 4,162.99 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ณ เวลา 13:55 น. ตามเวลานิวยอร์ก หลังจากแตะระดับสูงสุดตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย. ในช่วงก่อนหน้า ขณะที่สัญญาทองคำล่วงหน้า COMEX งวดส่งมอบเดือนธ.ค. ปิดเพิ่มขึ้น 0.6% ที่ 4,165.20 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ เอ็ดเวิร์ด เมียร์ นักวิเคราะห์จาก Marex ระบุว่า ตลาดเริ่มลดความสนใจต่อทิศทางดอลลาร์สหรัฐ และหันไปโฟกัสแนวโน้มการลดดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. โดยชี้ว่าราคาทองคำยังปรับตัวขึ้นได้ แม้ดัชนีดอลลาร์ยังทรงตัว พร้อมกล่าวเสริมว่า การคาดการณ์เกี่ยวกับการเสนอชื่อประธานเฟดคนใหม่ โดยมีเควิน แฮสเซ็ตต์ สมาชิกคณะกรรมการที่ปรึกษาเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นตัวเต็ง ก็กำลังเป็นแรงหนุนเพิ่มเติม เนื่องจากแฮสเซ็ตต์และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต่างเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยควรต่ำกว่าระดับที่ดำเนินการอยู่ภายใต้การนำของเจอโรม พาวเวลล์ ทั้งนี้ ข้อมูลจากเครื่องมือ FedWatch ของ CME บ่งชี้ว่า นักลงทุนมองโอกาสเฟดปรับลดดอกเบี้ยในเดือนหน้าเพิ่มขึ้นเป็น 85% จากระดับเพียง 30% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่มา Reuters (1) และ (2)

|