GULF เปิดดําเนินการเชิงพาณิชย์(COD) โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 2 โครงการ รวมกำลังผลิตตามสัญญา 85.8 เมกะวัตต์ จ่ายไฟให้กฟผ. เริ่ม 1 ธ.ค.นี้ ระบุปี 68 ยังเหลือโรงไฟฟ้าอีก 4 โครงการคาดจะทยอย COD เดือนนี้

นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) กลุ่มบริษัทย่อย ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นทางอ้อมผ่านบริษัท กัลฟ์ รีนิวเอเบิล เอ็นเนอร์จี จํากัด (GRE) ในสัดส่วน 100%

ได้เปิดดําเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) สําหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จํานวน 2 โครงการ รวมกําลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญา 85.8 เมกะวัตต์ (MW) (กําลังการผลิตติดตั้ง 113.2 เมกะวัตต์) และได้จ่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นที่เรียบร้อยแล้วในวันที่ 1 ธันวาคม 2568

โดยโครงการทั้งสองอยู่ภายใต้การดําเนินงานของบริษัทดังต่อไปนี้

1. บริษัท ราชา โซลาร์ จํากัด (RS) เป็นผู้ดําเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (solar farm) กําลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญา 37.8 เมกะวัตต์ (กําลังการผลิตติดตั้ง 49.8 เมกะวัตต์) ตั้งอยู่ในอําเภอเมือง บุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์

2. บริษัท สุริยาพัฒน์ จํากัด (SYP) เป็นผู้ดําเนินโครงการ solar farm กําลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญา 48.0 เมกะวัตต์ (กําลังการผลิตติดตั้ง 63.4 เมกะวัตต์) ตั้งอยู่ในอําเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย

โครงการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนภายใต้กลุ่ม GRE ที่ได้รับการคัดเลือกตาม ระเบียบคณะกรรมการกํากับกิจการพลังงานว่าด้วยการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ปี 2565 – 2573 สําหรับกลุ่มที่ไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง ซึ่งมีกําหนดทยอยเปิดดําเนินการเชิงพาณิชย์ระหว่างปี 2567 – 2573

สําหรับปี 2567 มีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ได้เปิดดําเนินการเชิงพาณิชย์แล้วจํานวน 5 โครงการ ขนาดกําลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวม 295.0 เมกะวัตต์ (กําลังการผลิตติดตั้ง 531.8 เมกะวัตต์) ในขณะที่ปี 2568 มีกําหนดทยอยเปิด ดําเนินการเชิงพาณิชย์โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มเติมอีก 7 โครงการ รวมกําลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญา 354.3 เมกะวัตต์ (กําลังการผลิตติดตั้ง 596.8 เมกะวัตต์)

โดยในจํานวนนี้มี 3 โครงการ รวมกําลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญา 123.6 เมกะวัตต์ (กําลัง การผลิตติดตั้ง 163.0 เมกะวัตต์) ที่เปิดดําเนินการเชิงพาณิชย์แล้วเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะที่อีก 4 โครงการจะทยอยเปิดดําเนินการเชิงพาณิชย์ในช่วงเดือนธันวาคมของปีนี้ ทั้งนี้บริษัทฯ จะรายงานความคืบหน้าเพิ่มเติมให้ทราบต่อไปเมื่อมีความเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาการสําคัญของโครงการต่อไป