TQM ประเมินรายได้ปี 69 เติบโต 5-10% เชื่อผลการดำเนินงานไตรมาส 4/68 ดีสุดของปี เหตุเป็นไฮซีซั่นของธุรกิจ และ ยอดขายประกันเติบโตต่อเนื่องตั้งแต่เดือนต.ค. และ พ.ย. เผยไม่ปิดโอกาส JV และ M&A หวังต่อยอด และ สร้างรายได้ในอนาคต

ดร.นภัสนันท์ พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) หรือ TQM เปิดเผยในงาน Opportunity Day ว่า ในปี 2569 คาดรายได้จะเติบโต 5–10% จากปี 2568 ที่คาดว่าจะทำได้เพียง 4-5% ซึ่งถือว่าต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อยที่วางไว้เดิม 5-10% เนื่องจากบริษัทฯ เจอผลกระทบทางด้านค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น จากการขายประกันที่มีมูลค่าต่อกรมธรรม์ที่ขาย (Ticket size) ลดลง ในช่วงเศรษฐกิจซบเซา

โดยบริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์ด้วยการให้พนักงานขายประกันที่มีมูลค่าต่อกรมธรรม์ที่ขายสูงขึ้น ส่งผลให้ในเดือนต.ค. และ พ.ย. ยอดขายปรับตัวดีขึ้น และ จะส่งผลให้ภาพรวมไตรมาส 4/68 จะเติบโตมากกว่าไตรมาส 3/68

ในขณะที่ประกันรถยนต์ ยังมียอดต่ออายุประกันอยู่ในระดับสูงประมาณ 80% แสดงถึงความเชื่อมั่นของลูกค้า และ บริษัทฯ ยังดำเนินกลยุทธ์การขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มผู้ใช้รถเก่า และ กลุ่มอื่น ๆ ต่อไป ส่วนประกันบ้าน ยังได้รับความสนใจ หลังเหตุแผ่นดินไหว และ ประกันสุภาพ เนื่องจากค่ารักษาพยาบาลที่ปรับตัวสูงขึ้น จึงทำให้ลูกค้ายังให้ความสำคัญกับการซื้อประกันสุขภาพ

"ปกติไตรมาส 4 และ ไตรมาส 1 จะเป็นไฮซีซั่นของเรา ซึ่งเราได้เห็นยอดขายปรับตัวดีขึ้นมากมาตั้งแต่เดือนต.ค. และ พ.ย. โดยทำให้เราเชื่อว่าไตรมาส 4 จะออกมาดี แต่ทั้งปีเราอาจทำไม่ได้ตามเป้า แต่หากมองว่า เราทำได้ 4-5% ในปีนี้ ถือว่าโตกว่าอุตสาหกรรมวินาศภัย 2 เท่าที่มองว่าจะโตเพียง 2%"ดร.นภัสนันท์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงเป้าหมายธุรกิจตามแผน 3 ปี(68-70) ที่คาดว่า รายได้จะเติบโตเฉลี่ยปีละ 5-10% แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจ และ กำลังซื้อของประชาชนยังไม่กลับมาเท่าที่ควร แต่ยังเชื่อว่า ในปี 2570 รายได้จะอยู่ที่ 50,000 ล้านบาทได้ ซึ่งอาจจะมาจากธุรกิจวินาศภัยมากกว่าธุรกิจประกันชีวิต โดยปัจจุบันสัดส่วนรายได้วินาศภัยอยูู่ที่ 92% และ ประกันชีวิตอยู่ที่ 8% ซึ่งบริษัทฯ ตั้งเป้าที่ให้ประกันชีวิตมีรายได้อยู่ที่ 5,000 ล้านบาทใน 5 ปีข้างหน้า

สำหรับการเข้าซื้อกิจการ หรือ การร่วมทุนนั้น ปัจจุบันบริษัทฯ ยังคงพิจารณาโอกาสที่จะเข้าลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อต่อยอด และ สร้างการเติบโตให้กับบริษัท แต่ในขณะเดียวกันต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้ได้ราคาที่เหมาะสม และ ต้องพิจารณาสภาะวะตลาดในขณะนั้นด้วย