ยอดขายบ้านในสิงคโปร์เดือนต.ค. กลับมาฟื้นตัวสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบหนึ่งปี จากปรากฏการณ์แห่ซื้อเมื่อเร็ว ๆ นี้ ซึ่งสร้างความกังวลว่า กระแสการเก็งกำไรจะกลับมาอีกรอบ สำนักงานพัฒนาเมือง (Urban Redevelopment Authority) ของสิงคโปร์ระบุว่า ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขายที่พักอาศัยส่วนบุคคลได้ 2,424 ยูนิตในเดือนต.ค. สูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2024 ซึ่งมีการแห่ซื้อในลักษณะเดียวกันจนยอดขายขึ้นไปอยู่ที่ 2,560 ยูนิต สาเหตุที่นำไปสู่การแห่ซื้อรอบนี้มาจากหลายปัจจัย รวมถึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ลดลง การถ่ายโอนความมั่งคั่งไปให้ลูกหลาน และการซื้อบ้านในกลุ่มชาวต่างชาติที่มั่งคั่ง แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะผลักดันให้ราคาบ้านในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ได้ชื่อว่าแพงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก พุ่งขึ้นไปอีก ทางด้านธนาคารกลางสิงคโปร์ (Monetary Authority of Singapore - MAS) ได้เน้นย้ำถึงการทบทวนเสถียรภาพทางการเงินเมื่อต้นเดือนนี้ว่า ปริมาณยอดขายบ้านโดยเฉลี่ยในช่วงสามไตรมาสแรกของปี 2025 นั้น สูงกว่ายอดขายในช่วงสามปีที่ผ่านมา เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ผ่อนคลายมากขึ้นซึ่งช่วยสนับสนุนความเชื่อมั่นของตลาดและความสนใจซื้อ ทั้งนี้ รัฐบาลสิงคโปร์ได้ใช้มาตรการดูแลเสถียรภาพระบบการเงิน (Macroprudential measures) มาเป็นเวลานาน เพื่อชะลอความร้อนแรงของตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยล่าสุดได้มีการขึ้นภาษีผู้ขายเมื่อต้นปีนี้เพื่อยับยั้งการเก็งกำไร ขณะเดียวกัน มีสัญญาณบ่งชี้ว่า อุปทานที่ดินใหม่กำลังลดลง ซึ่ง ชี ฮอง ทัต (Chee Hong Tat) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาแห่งชาติ กล่าวว่า รัฐบาลจะจัดสรรที่ดินเพื่อสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ประมาณ 4,500 ยูนิตในช่วงครึ่งแรกของปี 2026 ซึ่งต่ำกว่าจำนวนยูนิตที่เสนอในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2025 กว่า 10% ที่มา Bloomberg 
|