รายงานจาก Adobe Analytics ระบุว่า ผู้บริโภคในสหรัฐฯ ใช้จ่ายออนไลน์รวมกันคิดเป็นมูลค่ากว่า 14,250 ล้านดอลลาร์สหรัฐในวันไซเบอร์มันเดย์ ส่งผลให้ยอดขายออนไลน์รวมตลอดช่วงวันหยุดยาวเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving) แตะระดับ 44,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

สมาพันธ์ค้าปลีกแห่งชาติสหรัฐฯ (National Retail Federation – NFR) เปิดเผยว่า จำนวนผู้บริโภคที่ออกมาจับจ่ายช่วงเทศกาลในปีนี้ สูงเป็นประวัติการณ์ที่ 202.9 ล้านคน เทียบกับ 197 ล้านคนในปี 2024 โดยรายงานของ Adobe Analytics ชี้ว่า เนื่องจากผู้บริโภคแห่ซื้อสินค้าตั้งแต่แก็ดเจ็ตไปจนถึงของใช้ในบ้านในช่วงโปรโมชันลดราคาขนาดใหญ่ อีกทั้ง ตามรายงานยังระบุว่า ยอดใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 7.7% ในช่วง Cyber Week ซึ่งเป็นช่วงเวลา 5 วันนับจากวันขอบคุณพระเจ้า ไปจนถึงวันไซเบอร์มันเดย์ เทียบกับการเพิ่มขึ้น 8.2% แตะระดับ 41,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่แล้ว และสูงกว่าคาดการณ์เดิมที่ 43,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

แมทธิว เชย์ (Matthew Shay) ซีอีโอของ NRF กล่าวว่า “ยอดผู้ซื้อที่ทำสถิติใหม่ในปีนี้ สะท้อนให้เห็นถึงการที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่า ตอบรับโปรโมชันที่ดึงดูดใจ และใช้โอกาสนี้ทำให้เทศกาลวันหยุดช่วงฤดูหนาวมีความพิเศษมากยิ่งขึ้น”

NRF ยังระบุเพิ่มเติมว่า มีผู้บริโภค 129.5 ล้านคนจับจ่ายในร้านค้า เพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อน ขณะที่ผู้ซื้อใช้จ่ายเฉลี่ย 337.86 ดอลลาร์สหรัฐต่อคนสำหรับของขวัญ เสื้อผ้าตามฤดูกาล ของตกแต่ง และสินค้าเฉพาะเทศกาล เพิ่มขึ้นจาก 315.56 ดอลลาร์สหรัฐในปี 2024

ผู้ค้าปลีกรายใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น Amazon, Walmart และ Target ต่างเปิดแคมเปญลดราคาสินค้าหลากหลายหมวดเพื่อดึงดูดกลุ่มผู้ซื้อ ทั้งกลุ่มกำลังซื้อสูงที่ต้องการจับจ่ายสินค้าฟุ่มเฟือย และกลุ่มที่ต้องการประหยัดและใช้เงินอย่างคุ้มค่าที่สุด แม้ส่วนลดจำนวนมาก ทำให้ผู้บริโภคบางส่วนต้องก่อหนี้ระยะสั้น แต่นักวิเคราะห์ชี้ว่า ผู้บริโภคยังคงมีพฤติกรรมจับจ่ายอย่างระมัดระวังและใส่ใจป้ายราคาเพื่อหลีกเลี่ยงการซื้อโดยไม่วางแผน

ทั้งนี้ ชาวอเมริกันจำนวนมาก ยังใช้บริการที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) เช่น แชตบอต เพื่อช่วยค้นหาสินค้าและเปรียบเทียบราคาในหมวดต่าง ๆ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า ของเล่น วิดีโอเกม และเครื่องประดับ

ที่มา Reuters