โบรกฯ จับตา 9 หุ้นบิ๊กแคป พื้นฐานแก่ง-ปันผลดี เป้าหมายการลงทุนผ่าน "TISA" หลังรัฐเตรียมจัดแพ็กเกจส่งเสริมการออมเงินผ่านตลาดทุน หนุนเพิ่มสภาพคล่องในตลาด ฝ่ายวิจัย บล.กรุงศรี เปิดเผยในบทวิเคราะห์ว่า ตามที่ รมว. คลัง ระบุว่า รัฐบาลเตรียมออกมาตรการชุดใหม่เพื่อส่งเสริมการออมของประชาชน โดยเฉพาะการออมผ่านตลาดทุน ซึ่งจะประกาศเป็นแพ็กเกจเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์หน้า (9 ธ.ค.) โดยเตรียมนำระบบ Individual Saving Account (ISA) มาใช้ ให้ประชาชนทุกคนมีบัญชีออมการลงทุนของตนเอง 1 บัญชี สามารถเลือกลงทุนในตลาดทุนได้โดยตรงตามความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และสามารถนำไปลดหย่อนภาษีโดยตรง กระทรวงการคลังจะเสนอ ครม. เห็นชอบการกำหนดเพดานค่าลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยจะกำหนดไว้ที่ไม่เกิน 800,000 บาทต่อปี สำหรับการใช้สิทธิประโยชน์ค่าลดหย่อนทุกประเภทรวมกัน ทั้งมาตรการกระตุ้นตลาดทุนของทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในส่วนของมาตรการ TISA หรือ Thailand Individual Saving Account ด้วย ก็จะอยู่ภายใต้เพดานดังกล่าว เท่ากับ การออมเพื่อลดหย่อนภาษีในปีจจุบัน วงเงินจะอยู่ที่ 8.0 แสนบาทต่อคนต่อปีเท่าเดิม แต่จะมีทางเลือกมากขึ้นว่าจากเดิมที่เงินนับรวม 3 ทางเลือก คือ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ+RMF ไม่เกิน 5.0 แสนบาท + ThaiESG 3.0 แสนบาท จะเปลี่ยนเป็นการจัดสรรลงทุน 4 ทางเลือกใดก็ได้ ในส่วนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, RMF, ThaiESG และ TISA 
ส่วนของ TISA จะเป็นมาตรการถาวร ไม่ใช่แค่ระยะ 5ปี แล้วพิจารณาต่ออายุใหม่ โดย เมื่อมีการลงทุนหุ้นรายตัวในตลาดหุ้นไทย จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี เมื่อทำตามเงื่อนไขที่กำหนด “ลดหย่อนภาษี” ประเมินโทนทางบวกต่อโอกาสเกิดความต่อเนื่องเงินลงทุนระยะยาวภายในรอบใหม่ โดยเฉพาะจุดเด่นมาตรการที่มีความถาวร จะเพิ่มเงินสะสมเที่เข้าสู่ตลาดหุ้น เพิ่มสภาพคล่องตลาดหุ้นปัจจุบันที่หืดหาย แต่ระดับบวกต่อตลาดหุ้นไทย ยังต้องติดตามเงื่อนไขการจัดสรรเงินแต่ละส่วนว่าจะมีการกำหนกกฎเกณฑ์เพิ่มเติมอย่างไร รวมถึงรายละเอียดแนวทางลงทุนภายใต้โครงการ TISA KSS แนะนำวางกลยุทธ์ เน้นหุ้น Big Cap ที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง เงินปันผลสูง คาดเป็นเป้าหมายแรกๆของเม็ดเงิน อาทิ ธนาคาร KTB, KBANK สื่อสาร ADVANC หุ้นที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทาน AI อาทิ GULF, WHA, AMATA หุ้นภาคบริการที่กำลังเข้าสู่วงจรฟื้นตัวรอบใหม่ AOT, CENTEL, CPALL 
|