COM7 เผย ไตรมาส 3/68 มีกำไรสุทธิ 872 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.9% รับยอดขายสมาร์ทโฟนพุ่งและการขยายสาขาใหม่ต่อเนื่อง หนุน 9 เดือนแรก มีกำไรสุทธิ 2,855 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.5% บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 รายงานผลดำเนินงานไตรมาส 3/68 มีกำไรสุทธิ 872 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.9% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 709 ล้านบาท และงวด 9 เดือนปี 69 มีกำไรสุทธิ 2,855 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,293 ล้านบาท 
โดยรายได้จากการขายและการให้บริการในงวดไตรมาส 3/68 เท่ากับ 19,203 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,239 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีสาเหตุหลักจากอุปทานของสินค้าหลัก คือ iPhone ที่มีจำนวนจำกัด ในขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนระบบ Android ไม่มีสินค้าใหม่หรือ Hero model ในช่วงเวลาไตรมาสนี้จึงทำให้การเติบโตของยอดขายรวมไม่สูงมากนัก อีกทั้งยังได้รับผลกระทบมาจากสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงอีกด้วย อย่างไรก็ตามบริษัทก็ยังคงบริหารการขายโดยจัดหาสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดทั้งในแง่ของราคา คุณภาพ และช่องทางการเข้าถึง นอกจากนี้ผลการดำเนินงานของบริษัทย่อยและบริษัทร่วมยังมีส่วนสำคัญในการผลักดันรายได้ภาพรวมของกลุ่มบริษัทให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง กำไรขั้นต้นเท่ากับ 2,690 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 239 ล้านบาท หรือ 9.8% โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นต่อรายได้รวมเท่ากับ 14.0% เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการบริหารจัดการเรื่องทำโปรโมชั่นจำหน่ายสินค้า โดยให้สอดคล้องกับความสามารถในการเติบโตของรายได้จากการขายและการให้บริการ โดยที่บริษัทยังคงสามารถมีรายได้จากการขายที่เติบโตได้ดีแม้จะไม่ได้พึ่งพากลยุทธ์ส่งเสริมการขายเชิงรุกหรือการใช้โปรโมชั่นที่อาจส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรขั้นต้นก็ตาม ขณะที่ ณ สิ้นไตรมาส 3/68 บริษัทมีจำนวนสาขารวมทั้งสิ้น 1,331 สาขา โดยเพิ่มขึ้นสุทธิจำนวน 11 สาขา จากสิ้นไตรมาสที่ 2 โดยสาขาที่เปิดส่วนใหญ่เป็นสาขาหลักของบริษัท ได้แก่ Studio7 และ BaNANA ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ระยะยาวในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์หลักและขยายการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันบริษัทได้ตัดสินใจปิดสาขาที่มีผลการดำเนินงานไม่เป็นไปตามเป้าหมายและไม่สามารถสร้างผลกำไร และสาขาที่เป็นการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ร่วมกับพันธมิตรหรือการฝากขาย รวมถึงสาขาของธุรกิจอาหารสัตว์ PetPaw ซึ่งได้ปิดไปบางส่วนแล้วในไตรมาสนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และเพิ่มผลกำไรโดยรวมของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและต้นทุนในการจัดจำหน่าย และค่าใช้จ่ายในการบริหารรวม เท่ากับ 1,657 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 112 ล้านบาท หรือ7.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการเพิ่มขึ้นดังกล่าวสอดคล้องกับการเติบโตของผลการดำเนินงาน ประกอบกับบริษัทยังคงสามารถบริหารจัดการต้นทุนในการขายและต้นทุนในการจัดจำหน่ายและบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายดังกล่าวต่อรายได้รวมเท่ากับ 8.6% เท่ากันกับช่วงเดียวกันในปีก่อน |