CENTEL เปิดงบ Q3/68 มีกำไร 160 ลบ. ลดลง 2% หลังมีรายการพิเศษหลัง เลิกกิจการ Café Amazon Vietnam -โรงแรมในมัลดีฟส์ยังขาดทุน ขณะที่กลุ่มอาหารยังมีกำไรดี พร้อมทุ่มงบ 940 ลบ.ส่ง CRG ถือหุ้น "ลัคกี้สุกี้" 40% บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3/68 มีกำไร 160.36 ล้านบาท ลดลง 2% เทียบกับช่วงเดียวกันปี 67 ที่มีกำไร 163 ล้านบาท สำหรับงวด 9 เดือนปี 68 มีกำไร 1,018.55 ล้านบาท ลดลง 6% จากงวดกียวกันปี 67 ที่มีกำไร 1,086 ล้านบาท โดยไตรมาส 3/68 กำไรสุทธิที่ลดลง เป็นผลต่างจาก Core Performance ประกอบด้วยรายการพิเศษเพียงคร้ังเดียว ได้แก่การด้อยค่าเงินลงทุนในการร่วมค้า - บริษัท ORC Coffee Passion Group Joint Stock Company จำนวน 49 ล้านบาทซึ่งเป็นผลจากการเลิกกิจการ Café Amazon Vietnam , กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับเงินกู้ยืมสกุลต่างประเทศจำนวน 41 ล้านบาท และ ขาดทุนจากการตัดภาษีหัก ณ ที่จ่าย ที่ไม่สามารถขอคืนได้ จำนวน 23 ล้านบาท สำหรับรายได้รวมไตรมาสนี้อยู่ที่ 5,825 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% โดยสัดส่วนของรายได้จากธุรกิจโรงแรมต่อรายได้จากธุรกิจอาหารอยู่ที่ 44% : 56% และกำไรขั้นต้นรวม 3,375ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% โดยคิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 60% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้าน EBITDA รวม 1,464 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% โดยไตรมาสนี้มีกำไรในธุรกิจอาหารเป็นสำคัญ ขณะที่ธุรกิจโรงแรมยังคงมีผลขาดทุนจาก การดำเนินงานของโรงแรมเซ็นทารา มิราจลากูน มัลดีฟส์และโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ลากูน มัลดีฟส์

ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้มีมติให้บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (CRG)ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัท ถือหุ้น 100% ลงทุนในบริษัท มิราเคิล แพลนเนท จำกัด (MP)ซึ่งประกอบธุรกิจร้านอาหารประเภทสุกี้ และ บาร์บีคิว ภายใต้แบรนด์ ลัคกี้สุกี้ (Lucky Suki) และ ลัคกี้บาร์บีคิว (Lucky BBQ) โดย CRG มีการลงทุนซื้อหุ้นสามัญของ MP จากผู้ถือหุ้นเดิม จำนวน 35,000 หุ้น และซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ MP จำนวน 105,000 หุ้น โดยใช้เงินลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 940 ล้านบาท โดยภายหลังการเข้าทำรายการในครั้งนี้ CRG จะถือหุ้นใน MP จำนวนรวมทั้งสิ้น 140,000หุ้น คิดเป็นร้อยละ 40 ของจำนวนหุ้นจดทะเบียนทั้งหมดภายหลังการ เพิ่มทุนของ MP คาดว่าจะดำเนินธุรกรรมการลงทุนและโอนหุ้นให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2568
MP เป็นบริษัทที่จัดตั้งเมื่อวันที่ 23มิถุนายน 2564 เพื่อประกอบธุรกิจ ร้านอาหารประเภทสุกี้ และ บาร์บีคิวภายใต้แบรนด์ “ลัคกี้สุกี้” “Lucky Suki” และ “ลัคกี้บาร์บีคิว” “Lucky BBQ” ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ในรูปแบบบุฟเฟต์ โดย ปัจจุบัน ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2568 มีสาขาที่เปิดดำเนินกิจการทั้งหมด 38สาขา ซึ่งประกอบไปด้วยร้านลัคกี้สุกี้ จำนวน 27 สาขา และลัคกี้บาร์บีคิว จำนวน 11 สาขา 
|