Amazon.com Inc. รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ที่แข็งแกร่ง โดยหน่วยธุรกิจคลาวด์ Amazon Web Services (AWS) มีการเติบโตเร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 2022 สร้างความมั่นใจให้นักลงทุนที่กังวลว่า Amazon อาจกำลังเสียส่วนแบ่งตลาดให้กับคู่แข่งอย่าง Microsoft และ Google

ธุรกิจ AWS มีรายได้ไตรมาส 3 อยู่ที่ 33,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตสูงสุดนับตั้งแต่สิ้นปี 2022 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้เฉลี่ย 18% ก่อนหน้าการรายงานผลประกอบการ นักลงทุนมีความคาดหวังต่ำ เนื่องจากบริษัทเคยระบุว่าประสบปัญหาในการสร้างศูนย์ข้อมูลแห่งใหม่ให้ทันตามความต้องการ

หลังประกาศผลประกอบการ ส่งผลให้หุ้น Amazon พุ่งขึ้นกว่า 13% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการ หลังปิดตลาดที่ 222.86 ดอลลาร์สหรัฐ แม้หุ้นจะปรับตัวขึ้นไม่เทียบเท่าคู่แข่งกลุ่มเทคโนโลยีรายอื่นในปีนี้ แต่นักลงทุนหลายรายยังมองว่าบริษัทได้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์ด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) น้อยกว่าที่ควร ขณะที่ Microsoft Azure โตเกือบ 2 เท่าของ AWS และ Google Cloud โต 33.5% ในไตรมาสเดียวกัน

แอนดี แจสซี (Andy Jassy) ซีอีโอของบริษัท แสดงความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มของ AWS และเปิดเผยตัวเลขใหม่เกี่ยวกับผลกระทบของ AI ต่อธุรกิจของบริษัท โดย Amazon คาดว่า Rufus แชตบ็อตช่วยช้อปปิงในแอปค้าปลีกของบริษัท จะช่วยเพิ่มยอดขายได้ถึง 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ส่วน Connect แพลตฟอร์มศูนย์บริการลูกค้าของ Amazon ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ยอดนิยมสำหรับองค์กร กำลังจะมีรายได้ประจำปีแตะ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ Bedrock ซึ่งเป็นตลาดกลางของ AWS สำหรับโมเดล AI ของภาคธุรกิจ มีศักยภาพที่จะเติบโตจนมีขนาดเทียบเท่าบริการ EC2 ที่เป็นแหล่งรายได้หลักของคลาวด์ในปัจจุบัน

ในภาพรวม ไตรมาสที่สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. Amazon มีรายได้รวม 180,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 13% จากปีก่อนหน้า สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 177,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

เช่นเดียวกับคู่แข่งรายใหญ่ Amazon ได้ลงทุนจำนวนมากในศูนย์ข้อมูลและชิปเพื่อพัฒนาโมเดล AI ที่สามารถสร้างข้อความและภาพได้ อัตราการใช้จ่ายลงทุน (Capex) ของบริษัทเพิ่มขึ้น 61% สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 34,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในไตรมาสดังกล่าว โดยกำลังการผลิตของศูนย์ข้อมูล AWS เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าตั้งแต่ปี 2022 และแจสซีคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวภายในปี 2027 แม้เมื่อสัปดาห์ก่อน จะเพิ่งเผชิญเหตุขัดข้องครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี

ทั้งนี้ แม้ Amazon พยายามวางตำแหน่ง AWS ให้เป็นตลาดกลางสำหรับเครื่องมือ AI หลากหลายประเภท แต่ในตอนนี้ธุรกิจยังพึ่งพาพันธมิตรรายใหญ่คือ Anthropic PBC ผู้พัฒนาแชตบ็อต Claude และผู้ช่วยเขียนโค้ด AI โดย Amazon ลงทุนใน Anthropic ถึง 8,00 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และสร้างศูนย์ข้อมูลพร้อมชิป AI เฉพาะทางภายใต้ชื่อ Project Rainier ซึ่งเริ่มดำเนินงานแล้ว

บริษัทระบุว่าชิป Trainium2 ของตน ถูกจองเต็มทั้งหมด และได้กลายเป็นธุรกิจมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ Google ก็เพิ่งประกาศดีลจัดหาชิปให้ Anthropic เช่นกัน

สำหรับไตรมาส 4 ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลช้อปปิง Amazon คาดว่ารายได้จะอยู่ระหว่าง 206,000–213,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 21,000–26,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา Bloomberg