ผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีญี่ปุ่นในฤดูกาลล่าสุดออกมาแข็งแกร่งเกินคาด โดยได้แรงหนุนจากความต้องการศูนย์ข้อมูลที่เพิ่มขึ้นจากเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ส่งผลให้ผู้ผลิตชิปและซัพพลายเออร์อุปกรณ์ชิปจำนวนมากปรับเพิ่มคาดการณ์ผลกำไร หุ้นในดัชนี MSCI Japan Information Technology Index ซึ่งส่วนใหญ่รายงานผลประกอบการไปแล้วนั้น มากกว่า 3 ใน 4 ของบริษัทในดัชนี สามารถทำกำไรสูงกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และถือเป็นอัตราสูงที่สุดกลุ่มหนึ่งในดัชนี MSCI Japan Index รวมทั้งหมด และผลกำไรรวมของดัชนีเพิ่มขึ้นถึง 35% โดยมี Advantest Corp. เป็นหนึ่งในผู้ขับเคลื่อนสำคัญ ในทางกลับกัน ฤดูกาลรายงานงบประมาณครั้งนี้ ยังสะท้อนความแตกต่างชัดเจนในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์โลก นั่นคือดีมานด์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ยังคงหนุนกำไรอย่างแข็งแกร่ง แต่ผู้ผลิตที่พึ่งพาตลาดยานยนต์ยังเผชิญภาวะฟื้นตัวล่าช้า ผลประกอบการภาคส่วนต่าง ๆ ในดัชนี MSCI Japan บ่งชี้ว่า - กลุ่มเทคโนโลยี รายงานผลแล้ว 98.4% ทำได้ดีกว่าคาดถึง 77.3% และต่ำกว่าคาด 13.6% - กลุ่มการสื่อสาร รายงานผลครบ 100% ทำได้ดีกว่าคาดทั้ง 100% - กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย รายงานผลแล้ว 96.5% ทำได้ดีกว่าคาด 60.9% และต่ำกว่าคาด 34.8% - กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค รายงานผลแล้ว 85.4% ทำได้ดีกว่าคาด 36.4% และต่ำกว่าคาด 54.5% - กลุ่มพลังงาน รายงานผลแล้ว 52.3% ต่ำกว่าคาดทั้งหมด - กลุ่มการเงิน รายงานผลแล้ว 17.9% ทำได้ดีกว่าคาด 62.5% และต่ำกว่าคาด 25% - กลุ่มสุขภาพ รายงานผลครบทั้งหมด ทำได้ดีกว่าคาด 38.5% และต่ำกว่าคาด 46.2% - กลุ่มอุตสาหกรรม รายงานผลแล้ว 95.8% ทำได้ดีกว่าคาด 59.5% และต่ำกว่าคาด 33.3% - กลุ่มวัสดุ รายงานผลแล้ว 85.5% ทำได้ดีกว่าคาด 62.5% และต่ำกว่าคาด 25% - กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ รายงานผลแล้ว 74.9% ทำได้ดีกว่าคาด 40% และต่ำกว่าคาด 60% - กลุ่มสาธารณูปโภค รายงานผลแล้ว 100% ทำได้ดีกว่าคาด 75% และต่ำกว่าคาด 25% 
Tokyo Electron Ltd. ปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรจากการดำเนินงานตลอดปี โดยนักวิเคราะห์คาดว่า ความต้องการเครื่องจักรผลิตชิป จะยังแข็งแกร่งต่อเนื่องถึงปีหน้า จากแผนลงทุนของผู้ผลิตชิปรายใหญ่ และแนวโน้มปี 2026 ยังดีขึ้นด้วย โดย Berenberg ระบุว่า การลงทุนอุปกรณ์ผลิตเวเฟอร์ (WFE) มีแนวโน้มทำสถิติสูงสุดใหม่ จากการเร่งลงทุนใน DRAM และ NAND ด้าน Bloomberg Intelligence คาดว่า ความซับซ้อนที่เพิ่มขึ้นของชิปรุ่นใหม่ จะทำให้ความต้องการอุปกรณ์ของบริษัทสูงขึ้นต่อเนื่อง และดีมานด์จากลูกค้าอย่าง SK Hynix และ Samsung Electronics จะขยายขึ้นในปีงบประมาณหน้า ขณะที่ Tokyo Electron ครองส่วนแบ่งตลาดราว 90% ในเครื่องมือเคลือบและล้างผิวเวเฟอร์ด้วยโฟโตรีซิสต์ Advantest ปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรจากการดำเนินงานทั้งปีขึ้น 25% เป็น 374,000 ล้านเยน (2,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากความต้องการอุปกรณ์ทดสอบชิประดับไฮเอนด์ที่ใช้กับ High Bandwidth Memory (HBM) โดยส่วนแบ่งตลาดโลกของบริษัทในธุรกิจทดสอบชิปหน่วยความจำมูลค่า 1,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 7 จุด เป็น 63% นอกจากนี้ ดีมานด์ด้าน AI ยังขยายจาก HBM ไปสู่ DRAM และ NAND ซึ่งกระตุ้นความต้องการวัสดุและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ขณะที่ความต้องการ AI GPU ยังถือว่าสูงมากและอาจเพิ่มขึ้นต่อเนื่องถึงปี 2026 ทั้งนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นเร่งสนับสนุนภาคชิป โดยทุ่มงบประมาณรวมกว่า 5.7 ล้านล้านเยนตั้งแต่ปี 2021 เพื่อฟื้นอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ และตั้งเป้าจัดสรรงบประมาณปีละ 1 ล้านล้านเยนเพื่อสนับสนุนการพัฒนา AI และชิปรุ่นใหม่ โดยตรงกันข้ามกับกลุ่มยานยนต์ ที่ยังฟื้นตัวได้อย่างล่าช้า ที่มา Bloomberg 
|