HMPRO รับปี 68 ยังเผชิญแรงกดดันจากกำลังซื้ออ่อนแรง ฝนตกหนัก–เสี่ยงน้ำท่วม ฉุดยอดขายภาคเหนือ–อีสาน ขณะที่ SSSG ยังติดลบต่อเนื่อง แต่ธุรกิจศูนย์บริการช่างโตเด่น สะท้อนผู้บริโภคหันซ่อมบ้านแทนซื้อใหม่ เตรียมทุ่มงบ 2-3 พันลบ.เปิด 7–8 สาขาใหม่ ในไตรมาส 4/68 ประเมินปี 69 อาจดีขึ้นเล็กน้อย แต่ยังไม่ฟื้นตัวแรง

นายรักพงศ์ อรุณวัฒนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มนักลงทุนสัมพันธ์ กลยุทธ์ และความยั่งยืนองค์กร บริษัท โฮมโปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO เปิดเผยในงาน Opportunity Day ว่า ปี 68 ถือเป็นปีที่เหนื่อย ยอดขายรวมลดลงและ SSSG ติดลบ โดยเฉพาะในภาคเหนือและอีสานที่ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักและความเสี่ยงน้ำท่วมเพิ่มเติม แต่ธุรกิจศูนย์บริการช่างกลับเติบโตโดดเด่น สะท้อนพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาปรับปรุงบ้านแทนการซื้อใหม่

ในไตรมาส 3/68 รายได้บริการเพิ่มขึ้น ขณะที่รายได้จากศูนย์บริการช่างโตเกือบ 10% แม้ยอดขายหน้าร้านหดตัว ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์สร้างอีโคซิสเต็มของบริษัท

สำหรับปี 69 ผู้บริหารประเมินว่าสถานการณ์อาจไม่แย่เท่าปีนี้ แต่ก็คงไม่ดีมากนัก เนื่องจากกำลังซื้อยังเปราะบางจากภาวะหนี้ครัวเรือนสูง

ด้านแผนการลงทุน  เตรียมทุ่มงบ 2,000–3,000 ล้านบาท โดยไตรมาส 4 จะเปิดสาขาใหม่แบบกระจุกตัว 7–8 แห่ง ทั้งโฮมโปรและเมกะโฮม ส่วนใหญ่เป็นสาขาไฮบริดที่ใช้งบไม่มาก พร้อมปรับกลยุทธ์จากการเปิดสาขาใหม่ไปสู่การรีโนเวตสาขาเดิมมากขึ้น

ปีนี้ตั้งเป้าเปิดสาขาใหม่รวม 11 แห่ง (ไฮบริด 9 แห่ง สแตนอโลน 2 แห่ง) ส่งผลให้สิ้นปีนี้บริษัทจะมีสาขารวม 146 แห่ง จากปัจจุบัน 139 แห่ง

ในด้านการเติบโตต่างประเทศชะลอตัว โดยธุรกิจในเวียดนามปิดตัวลง ขณะที่ธุรกิจในมาเลเซียมีปัญหาภายใน ทำให้บริษัทหันกลับมาเน้นตลาดรีโนเวตบ้านในประเทศ และเตรียมเปิดบริการใหม่เพื่อตอบโจทย์เจ้าของบ้านที่ยังมีความต้องการปรับปรุงที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง

สำหรับแนวโน้มไตรมาส 4/68 มองว่ายังคงเหนื่อย จากปัจจัยภายนอกหลายด้าน ทั้งกำลังซื้ออ่อนแรง ภาวะหนี้ครัวเรือนสูง ภาพเศรษฐกิจชะลอ และความเสี่ยงน้ำท่วมในเดือนตุลาคม คาดว่ารายได้รวมทั้งปีมีแนวโน้มลดลงใกล้เคียงกับผลประกอบการ 9 เดือนแรกของปี

ส่วนของมาตรการ “คนละครึ่ง” บริษัทมองเชิงบวก โดยคาดหวังว่าจะช่วยอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบและส่งเสริมการซื้ออุปกรณ์ซ่อมบ้านบางส่วน