นายฝ่าม มิงห์ จิ๋ง (Pham Minh Chinh) นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ลงนามอนุมัติแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมวัฒนธรรมของเวียดนามถึงปี 2030 พร้อมกำหนดเป้าหมายต่อเนื่องไปจนถึงปี 2045

แผนยุทธศาสตร์นี้ ครอบคลุม 10 อุตสาหกรรมหลักด้านวัฒนธรรม ประกอบด้วย ภาพยนตร์, วิจิตรศิลป์, ภาพถ่ายและนิทรรศการ, ศิลปะการแสดง, ซอฟต์แวร์และเกมบันเทิง, โฆษณา, หัตถกรรม, การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม, การออกแบบเชิงสร้างสรรค์, โทรทัศน์และวิทยุ และสื่อสิ่งพิมพ์

อุตสาหกรรมเหล่านี้จะผลิตสินค้าที่ขับเคลื่อนด้วยความคิดสร้างสรรค์ ที่ผสานเทคโนโลยี และทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการบริโภคทางวัฒนธรรม พร้อมทั้งสนับสนุนการบูรณาการระหว่างประเทศและการพัฒนาที่ยั่งยืน

เป้าหมายของแผนดังกล่าวคือ เปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมทางวัฒนธรรมให้กลายเป็นภาคเศรษฐกิจที่สำคัญ ที่มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เพิ่มการส่งออกผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม ตลอดจนส่งเสริมเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม มรดก และความคิดสร้างสรรค์ของเวียดนามในเวทีโลก โดยมีจุดสำคัญที่มุ่งเน้นคือ การพัฒนาอุตสาหกรรมบันเทิงเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของประชาชนและนักท่องเที่ยว พร้อมทั้งยกระดับซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศให้แข็งแกร่ง

ภายในปี 2030 เวียดนามตั้งเป้าการเติบโตของอุตสาหกรรมทางวัฒนธรรมต่อปีที่ประมาณ 10% โดยมีสัดส่วนคิดเป็น 7% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าผลิตแรงงานเพิ่มขึ้น 10% ต่อปี ซึ่งคิดเป็น 6% ของการจ้างงานรวมทั้งประเทศ ด้านจำนวนองค์กรที่ดำเนินงานในอุตสาหกรรมวัฒนธรรม คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 10% ต่อปีเช่นกัน ขณะเดียวกัน การส่งออกสินค้าทางวัฒนธรรม คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 7% ต่อปี

สำหรับเป้าหมายปี 2045 เวียดนามตั้งเป้าพัฒนาอุตสาหกรรมทางวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน โดยมีรายได้คิดเป็น 9% ของ GDP และมีสัดส่วนการจ้างงาน 8% ของแรงงานทั้งประเทศ คาดว่าผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมดิจิทัลจะมีสัดส่วนมากกว่า 80% ของผลผลิตทางวัฒนธรรมทั้งหมด และคาดว่า มูลค่าการส่งออกจะเติบโตเฉลี่ย 9% ต่อปี ซึ่งจะช่วยให้เวียดนามก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและความบันเทิงชั้นนำในเอเชีย พร้อมทั้งสร้างความมั่นคงบนแผนที่อุตสาหกรรมวัฒนธรรมระดับโลก

ที่มา Voice of Vietnam