SAMART คาดรายได้ปี 68 โต 10-15% ส่วนปี 69 หวังรายได้โตแตะ 13,500 ลบ. ด้านกำไร 845 ลบ. หลังธุรกิจบ.ลูก กลุ่ม SAV เที่ยวบินเพิ่มต่อเนื่อง ด้าน SAMTEL เซ็นสัญญารับงานเพิ่ม นายรัฐนันท์ วิไลลักษณ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายพัฒนาธุรกิจและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAMART เปิดเผยในงาน Opportunity Day ว่าภาพรวมรายได้ของบริษัทฯ ปี 68 คาดเติบโต 10-15% หรือแตะระดับ 11,500 ล้านบาท ด้านกำไรหลักไม่รวมการด้อยค่าในปี 68 คาดแตะระดับ 690 ล้านบาท
โดยแนวโน้มผลงานในไตรมาส 4/68 มีโอกาสเติบโตดีกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากกลุ่มบริษัทลูกอย่าง บริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SAV มีจำนวนเที่ยวบินที่ดีต่อเนื่อง ด้านธุรกิจบริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ SAMTEL มีสัญญางานเข้ามาต่อเนื่อง โดยในปี 69 กลุ่ม SAMART คาดหวังรายได้แตะระดับ 13,500 ล้านบาท และกำไรสุทธิที่ 845 ล้านบาท สำหรับกลุ่มธุรกิจ Digital Communications ในกลุ่มบริษัท สามารถ ดิจิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SDC โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีอุปกรณ์สื่อสารจำนวน 71,680 เครื่อง ซึ่งรับรู้รายได้ค่าบริการ (Airtime) ทั้งหมด นอกจากนี้บริษัทฯ ส่งมอบอุปกรณ์ของโครงการจัดหาระบบวิทยุสื่อสารข่ายบังคับบัญชากระทรวงมหาดไทย (MOI) เพิ่มอีกประมาณ 6,611 เครื่อง ส่งผลให้ปี 69 จะมีอุปกรณ์สื่อสารเพิ่มเป็น 78,291 เครื่อง และจะมีโครงการใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มตั้งเป้า 5,600 เครื่อง ซึ่งคาดว่าจะทำให้มีจำนวนอุกปรณ์สื่อสารเป็น 83,891 เครื่อง 
ด้านธุรกิจ SAV ในช่วงไตรมาส 4/68 มีแนวโน้มการเติบโต-จำนวนเที่ยวบินเพิ่มมากขึ้นรับช่วงการท่องเที่ยว โดยในปี 69 ตั้งเป้ารายได้ 2,630 ล้านบาท และคาดกำไรประมาณ 618 ล้านบาท โดย SAV มีรายได้หลักจากการบินผ่านน่านฟ้าประเทศกัมพูชา ซึ่งกลุ่มเวียดนามมีอัตราการเติบโตค่อนข้างดี รวมถึงในไทย มาเลเซีย จีน สิงคโปร์ด้วยเช่นกัน โดยเส้นทางที่กลุ่มการบินใช้บริการบินผ่าน เช่น ยุโรปไปเวียดนาม, จีนไปมาเลเซียหรือสิงคโปร์, จีนหรือไต้หวันไปภูเก็ต หรือในช่วงที่มีพายุสายการบินต่างๆ ต้องบินผ่านกัมพูชา เป็นต้น ส่วนความตึงเครียดระหว่างไทย-กัมพูชา ในช่วงมีเหตุการณ์ยิง เที่ยวบินกัมพูชาลดน้อยลงอย่างไรก็ตามเมื่อสถานการณ์ผ่แนคลายลง จำนวนเที่ยวบินกลับมา โดยเชื่อว่าสถานการณ์สงครามเริ่มเบาบางลง ส่งผลให้นักท่องเที่ยวเริ่มกับเข้ามาในช่วงปลายปี 68 มากขึ้น โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักที่เดินทางไปกัมพูชาได้แก่ เวียดนาม ไทย จีน ทั้งนี้ SAV มีโครงการข่ายอุปกรณ์ มูลค่าโครงการ 1,100 ล้านบาท คาดเปิดประมูลกลางเดือนธันวาคม และคาดว่าในปี 69 จะมีโครงการประมูลมากขึ้นในการอัพเดตอุปกรณ์ ส่วนโครงการ FOD ที่สนามบินสุวรรณภูมิ มูลค่าโครงการ 1,280 ล้านบาท คาดเปิดประมูลเดือนธันวาคมนี้เช่นกัน นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีโอกาสขยายโครงการดังกล่าวไปที่ดอนเมือง และภูเก็ต และธุรกิจ SAMTEL คาดรายได้ปี 68 มีโอกาสเติบโตดีกว่าปีที่ผ่านมาและโตต่อเนื่องจากการเซ็นสัญญางานเพิ่มขึ้น หนุนงานในมือ (Backlog) เพิ่มมากขึ้น ซึ่งปีนี้คาดเซ็นสัญญาได้กว่า 7,000 ล้านบาท หนุน Backlog ทั้งปี 68 คาดอยู่ที่ 16,000 ล้านบาท โดยคาดหวังปี 69 มี Backlog แตะระดับ 18,200 - 20,000 ล้านบาท 
|