รัฐบาลจีนยืนยันว่า จะระงับการเก็บภาษีตอบโต้สำหรับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ บางรายการ รวมถึงสินค้าเกษตรบางประเภท ภายหลังการพบปะระหว่างผู้นำ 2 ประเทศเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่จะยังเก็บภาษีถั่วเหลืองในอัตรา 13% ตามเดิม มีผลตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย. เป็นต้นไป คณะกรรมาธิการด้านภาษีของสภาแห่งรัฐ (State Council Tariff Commission) ระบุว่า จะยกเลิกการเก็บภาษีสูงสุด 15% สำหรับสินค้าเกษตรกรรมบางรายการจากสหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย. เป็นต้นไป แต่จะยังคงภาษี 10% ที่ประกาศในวันปลดปล่อย (Liberation Day) ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยการเคลื่อนไหวครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากการพบกันระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในเกาหลีใต้ ซึ่งช่วยคลายความกังวลของนักลงทุน เอเวน โรเจอร์ส เพย์ ผู้อำนวยการจากบริษัทที่ปรึกษา Trivium China กล่าวว่า “โดยภาพรวม นี่เป็นสัญญาณที่ดีว่า 2 ฝ่ายกำลังคืบหน้าไปอย่างรวดเร็วในการดำเนินข้อตกลง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสอดคล้องและความมุ่งมั่นที่จะรักษาข้อตกลงนี้” ขณะเดียวกัน สัญญาซื้อขายล่วงหน้าถั่วเหลืองสหรัฐฯ พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2024 จากความหวังว่าจีนจะกลับมาซื้อสินค้าอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม การที่จีนยังคงเก็บภาษีถั่วเหลืองในอัตรา 13% ทำให้ราคาถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ ยังคงแพงเกินไปเมื่อเทียบกับบราซิล ซึ่งนักวิเคราะห์ชี้ว่า ผู้ซื้อเชิงพาณิชย์ของจีน ยังไม่มีแรงจูงใจกลับมานำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ 
ขณะที่ทำเนียบขาว เปิดเผยหลังการประชุมว่า จีนตกลงจะซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ อย่างน้อย 12 ล้านตันในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี 2025 และอีกไม่น้อยกว่า 25 ล้านตันต่อปีใน 3 ปีถัดไป แต่ฝ่ายจีนยังไม่ได้ยืนยันตัวเลขดังกล่าว และตลาดกำลังจับตาดูว่าจะมีการสั่งซื้อขนาดใหญ่เกิดขึ้นจริงหรือไม่ ปัจจุบัน ผู้ค้าชาวจีนเพิ่งสั่งซื้อถั่วเหลืองจากบราซิลจำนวน 20 ล็อต หลังราคาถั่วเหลืองในภูมิภาคอเมริกาใต้ ปรับลดลงจากการคาดการณ์ว่าจีนอาจกลับมาซื้อจากสหรัฐฯ อีกครั้ง โดยอาร์แลน ซูเดอร์แมน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์ของบริษัท StoneX ระบุว่า ภายใต้ภาษีปัจจุบัน ถั่วเหลืองสหรัฐฯ แพงกว่าของบราซิลมากกว่าบุชเชล (หน่วยวัดปริมาตรสินค้าแห้ง ที่นิยมใช้กับผลผลิตทางการเกษตร) ละ 1 ดอลลาร์สหรัฐ พร้อมระบุว่า หากจีนไม่ยกเว้นภาษีตอบโต้ รัฐวิสาหกิจจีน Sinograin ซึ่งเป็นผู้ซื้อเมล็ดพืชรายใหญ่ของรัฐ อาจต้องรับภาระในการจัดซื้อถั่วเหลืองสหรัฐฯ 12 ล้านตันตามที่ตกลงไว้ ข้อมูลจากผู้ค้าชี้ว่า ถั่วเหลืองบราซิลที่มีกำหนดส่งมอบเดือนธ.ค.เสนอขายในราคาพรีเมียม 2.25–2.30 ดอลลาร์สหรัฐต่อบุชเชล ขณะที่ถั่วเหลืองสหรัฐฯ เสนอขายในราคา 2.40 ดอลลาร์สหรัฐต่อบุชเชล ทั้งนี้ ข้อมูลศุลกากรระบุว่า ในปี 2024 จีนซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ คิดเป็น 20% ของการนำเข้าทั้งหมด โดยลดลงจากระดับ 41% ในปี 2016 ซึ่งเป็นปีก่อนที่ประธานาธิบดีทรัมป์ จะเริ่มดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก ซึ่งในปี 2025 จีนแทบจะหลีกเลี่ยงการนำเข้าผลผลิตจากสหรัฐฯ เนื่องจากอัตราภาษีในระดับสูง ทำให้เกษตรกรอเมริกันสูญเสียรายได้จากการส่งออกคิดเป็นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่มา Bloomberg

|