ข่าวหุ้นไทย21 พ.ย. 2568 14:32 น.น้ำมันรัสเซีย เสี่ยงลอยค้างกลางทะเล หลังสหรัฐฯ คว่ำบาตรรอบใหม่ กระทบกว่า 48 ล้านบาร์เรลน้ำมันรัสเซีย เสี่ยงลอยค้างกลางทะเล หลังสหรัฐฯ คว่ำบาตรรอบใหม่ กระทบกว่า 48 ล้านบาร์เรลstar_borderefinAI สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -21 พ.ย. 68 14:32 น. มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ที่มีผลตั้งแต่วันศุกร์ (21 พ.ย.) กำลังสร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ต่อการค้าด้านพลังงานโลก โดยอาจทำให้น้ำมันดิบรัสเซียเกือบ 48 ล้านบาร์เรล ลอยค้างอยู่กลางทะเล ขณะที่เรือบรรทุกน้ำมันหลายสิบลำ เร่งมองหาปลายทางใหม่หลังถูกปฏิเสธจากชาติผู้ซื้อรายหลัก ความเคลื่อนไหวล่าสุดของสหรัฐฯ เมื่อเดือนที่แล้ว ที่ขึ้นบัญชีดำผู้ผลิตน้ำมันยักษ์ใหญ่ของรัสเซียอย่าง Rosneft PJSC และ Lukoil PJSC ถือเป็นหนึ่งในมาตรการที่แข็งกร้าวที่สุดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อเพิ่มแรงกดดันต่อรัสเซียในการทำสงครามยูเครน โดยกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่า มาตรการนี้เริ่มเห็นผลชัดเจน ทั้งความต้องการซื้อที่ลดลงและส่วนต่างราคาน้ำมันรัสเซียที่เพิ่มขึ้น ภายหลังคำสั่งคว่ำบาตรมีผลจริง พบว่าผู้กลั่นน้ำมันของอินเดีย ได้เริ่มจองเรือเพื่อสั่งซื้อน้ำมันจากชาติตะวันออกกลางแทนรัสเซีย ส่งผลให้ค่าระวางเรือในเส้นทางดังกล่าว พุ่งขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 5 ปี ขณะที่ผู้ค้าพลังงานทั่วโลก กำลังจับตาว่าใครจะเป็นผู้ซื้อปลายทางของน้ำมันจาก Rosneft และ Lukoil ที่ยังลอยลำอยู่กลางทะเลในขณะนี้ วอร์เรน แพตเทอร์สัน หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ของ ING ระบุว่า การส่งออกของรัสเซียยังคงมีเป็นจำนวนมาก แต่เรือขนส่งหลายลำยังไปไม่ถึงปลายทาง หากสถานการณ์นี้ยืดเยื้อ อาจทำให้ปริมาณส่งออกสะสมจนกระทบอุปทานโลกในที่สุด โดยข้อมูลจาก Kpler ชี้ว่า น้ำมันกว่า 48 ล้านบาร์เรล ส่วนใหญ่เป็นเกรด Urals และ ESPO อยู่ระหว่างเดินทางหรือกำลังเริ่มบรรทุก โดยมีเรือราว 50 ลำมุ่งหน้าไปจีนและอินเดีย ขณะที่อีกหลายลำไร้ปลายทางที่แน่ชัด หรือตั้งเป้าไปท่าเรือขนาดเล็กตั้งแต่ทะเลบอลติกถึงทะเลจีนใต้ เนื่องจากผู้ค้าเริ่มหลีกเลี่ยงการยุ่งเกี่ยวกับน้ำมันรัสเซีย แม้รัสเซียจะต้องการรักษาระดับการส่งออก และเดินหน้าบรรทุกน้ำมันต่อเนื่องเฉลี่ย 3.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่ไม่ใช่ทุกลำที่จะหาผู้ซื้อได้ แม้แต่ในจีนและอินเดียที่เป็นลูกค้าหลักตั้งแต่ปี 2022 โดยจีนและอินเดีย ยังคงใช้ท่าทีระมัดระวัง เพื่อป้องกันการถูกลากเข้าไปยุ่งกับมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ที่จะเล่นงานทุกฝ่ายที่ช่วยอำนวยความสะดวกการส่งออกของรัสเซีย ซึ่งระดับการบังคับใช้มาตรการของสหรัฐฯ จะเป็นตัวชี้ว่าปริมาณน้ำมันรัสเซีย จะเข้าถึงโรงกลั่นได้มากน้อยเพียงใด ที่มา Bloomberg efinAI แท็กที่เกี่ยวข้องคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซียมาตรการคว่ำบาตรสหรัฐฯสงครามรัสเซีย-ยูเครนน้ำมันรัสเซียABOUT THE AUTHORสิริพงศ์ สิริชุมศรีreporter
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -21 พ.ย. 68 14:32 น. มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ที่มีผลตั้งแต่วันศุกร์ (21 พ.ย.) กำลังสร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ต่อการค้าด้านพลังงานโลก โดยอาจทำให้น้ำมันดิบรัสเซียเกือบ 48 ล้านบาร์เรล ลอยค้างอยู่กลางทะเล ขณะที่เรือบรรทุกน้ำมันหลายสิบลำ เร่งมองหาปลายทางใหม่หลังถูกปฏิเสธจากชาติผู้ซื้อรายหลัก ความเคลื่อนไหวล่าสุดของสหรัฐฯ เมื่อเดือนที่แล้ว ที่ขึ้นบัญชีดำผู้ผลิตน้ำมันยักษ์ใหญ่ของรัสเซียอย่าง Rosneft PJSC และ Lukoil PJSC ถือเป็นหนึ่งในมาตรการที่แข็งกร้าวที่สุดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อเพิ่มแรงกดดันต่อรัสเซียในการทำสงครามยูเครน โดยกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่า มาตรการนี้เริ่มเห็นผลชัดเจน ทั้งความต้องการซื้อที่ลดลงและส่วนต่างราคาน้ำมันรัสเซียที่เพิ่มขึ้น ภายหลังคำสั่งคว่ำบาตรมีผลจริง พบว่าผู้กลั่นน้ำมันของอินเดีย ได้เริ่มจองเรือเพื่อสั่งซื้อน้ำมันจากชาติตะวันออกกลางแทนรัสเซีย ส่งผลให้ค่าระวางเรือในเส้นทางดังกล่าว พุ่งขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 5 ปี ขณะที่ผู้ค้าพลังงานทั่วโลก กำลังจับตาว่าใครจะเป็นผู้ซื้อปลายทางของน้ำมันจาก Rosneft และ Lukoil ที่ยังลอยลำอยู่กลางทะเลในขณะนี้ วอร์เรน แพตเทอร์สัน หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ของ ING ระบุว่า การส่งออกของรัสเซียยังคงมีเป็นจำนวนมาก แต่เรือขนส่งหลายลำยังไปไม่ถึงปลายทาง หากสถานการณ์นี้ยืดเยื้อ อาจทำให้ปริมาณส่งออกสะสมจนกระทบอุปทานโลกในที่สุด โดยข้อมูลจาก Kpler ชี้ว่า น้ำมันกว่า 48 ล้านบาร์เรล ส่วนใหญ่เป็นเกรด Urals และ ESPO อยู่ระหว่างเดินทางหรือกำลังเริ่มบรรทุก โดยมีเรือราว 50 ลำมุ่งหน้าไปจีนและอินเดีย ขณะที่อีกหลายลำไร้ปลายทางที่แน่ชัด หรือตั้งเป้าไปท่าเรือขนาดเล็กตั้งแต่ทะเลบอลติกถึงทะเลจีนใต้ เนื่องจากผู้ค้าเริ่มหลีกเลี่ยงการยุ่งเกี่ยวกับน้ำมันรัสเซีย แม้รัสเซียจะต้องการรักษาระดับการส่งออก และเดินหน้าบรรทุกน้ำมันต่อเนื่องเฉลี่ย 3.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่ไม่ใช่ทุกลำที่จะหาผู้ซื้อได้ แม้แต่ในจีนและอินเดียที่เป็นลูกค้าหลักตั้งแต่ปี 2022 โดยจีนและอินเดีย ยังคงใช้ท่าทีระมัดระวัง เพื่อป้องกันการถูกลากเข้าไปยุ่งกับมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ที่จะเล่นงานทุกฝ่ายที่ช่วยอำนวยความสะดวกการส่งออกของรัสเซีย ซึ่งระดับการบังคับใช้มาตรการของสหรัฐฯ จะเป็นตัวชี้ว่าปริมาณน้ำมันรัสเซีย จะเข้าถึงโรงกลั่นได้มากน้อยเพียงใด ที่มา Bloomberg