เพื่อตอบรับยุทธศาสตร์ระดับชาติของไทยด้านความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ในปี 2050 เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ประเทศไทย ได้เปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า (EV Bike) รุ่นใหม่อย่างเป็นทางการ โดยนำเทคโนโลยีพลังงานสะอาดมาปรับใช้ในระบบการจัดส่งสินค้าปลายทางสุดท้าย เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการจัดส่ง พร้อมช่วยผลักดันอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ไทยสู่การเปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน

ในฐานะหนึ่งในโครงการสำคัญภายใต้กลยุทธ์โลจิสติกส์สีเขียวระดับโลก รถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่นี้ได้ผสานเทคโนโลยีพลังงานสะอาดเข้ากับระบบปฏิบัติการอัจฉริยะอย่างลึกซึ้ง สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการดำเนินงานภายใต้แนวคิด ESG โดยรวมประสิทธิภาพการขนส่งสีเขียวทั้ง 4 ด้านไว้ในหนึ่งเดียว ได้แก่ การเพิ่มประสิทธิภาพด้านเส้นทาง การฝึกอบรมด้านการประหยัดพลังงาน การยกระดับโครงสร้าง และการเพิ่มขีดความสามารถทางเทคโนโลยี ทำให้รถรุ่นนี้ได้รับการพัฒนาให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในการจัดส่งของประเทศไทยโดยเฉพาะ โดยมีจุดเด่นสำคัญ ได้แก่:

  การใช้งานยาวนานต่อเนื่อง: มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเทียมความจุสูง รองรับการจัดส่งตลอดวัน ลดความถี่ในการชาร์จ และช่วยคงประสิทธิภาพด้านเวลาในการจัดส่ง

  รองรับสภาพถนนที่ซับซ้อน: มอเตอร์แรงบิดสูงช่วยให้ตอบสนองต่อการออกตัว–หยุดได้รวดเร็ว แม้ในเส้นทางการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ หรือพื้นที่ลาดชัน ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการจัดส่ง

  การดำเนินงานแบบคาร์บอนต่ำ: ลดการปล่อยไอเสีย ไร้มลพิษทางเสียง สนับสนุนการสร้างระบบโลจิสติกส์ของเมืองอย่างยั่งยืน

การนำรถรุ่นใหม่นี้มาใช้งาน ถือเป็นการขยายระบบโลจิสติกส์สีเขียวครบวงจรของเจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเป็นรูปธรรม โดยในปี 2024 บริษัทได้เริ่มนำกระสอบที่สามารถใช้ซ้ำได้ (reusable transit bags) เข้ามาใช้งานภายในศูนย์กระจายสินค้าทั่วประเทศ จำนวนกว่า 799,000 ใบ เพิ่มขึ้น 80.7% จากปีก่อน และมีอัตราการใช้งานหมุนเวียนมากกว่า 27.62 ล้านครั้ง ซึ่งการเพิ่มรถมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้ในครั้งนี้ ยิ่งช่วยเสริมสร้างระบบปฏิบัติการโลจิสติกส์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแบบครบวงจร ทั้งในมิติของบรรจุภัณฑ์สีเขียวและการขนส่งพลังงานสะอาด

ในฐานะผู้นำด้านโลจิสติกส์ที่เติบโตอย่างมั่นคงในประเทศไทย เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส จะยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาด้านนวัตกรรม รองรับการผสานเทคโนโลยีพลังงานสะอาด ระบบอัจฉริยะ และกระบวนการโลจิสติกส์ เพื่อยกระดับศักยภาพการขนส่งของประเทศ สนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืน และร่วมขับเคลื่อนสู่ระบบโลจิสติกส์สีเขียวและอัจฉริยะระดับภูมิภาค