THAI เผยไตรมาส 3/68 มีกำไรสุทธิ (ส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่) 4,413 ล้านบาท ลดลง 64.6% หลังไม่มีบุ๊กรายการพิเศษ ขณะที่รายได้ลดลง จากการแข่งขันที่รุนแรงและการแข็งค่าเงินบาท ส่วน 9 เดือน กำไรสุทธิ 26,369 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73% จำนวนขนส่งผู้โดยสารโตทะลุ 12 ล้านคน

บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI รายงานผลดำเนินงานไตรมาส 3/68 มีกำไรสุทธิ (ส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่) จำนวน 4,413.4 ล้านบาท ลดลง 64.6% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 12,479.52 ล้านบาท

ขณะที่บริษัทและบริษัทย่อย ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 4,421 ล้านบาท ในขณะที่ปีก่อนมีกำไร 12,483 ล้านบาท เนื่องจากปีก่อนมีรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวสุทธิเป็นรายได้ 10,119 ล้านบาท โดยหลักจากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศสุทธิ และกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ และมี EBITDA 12,408 ล้านบาท

มีรายได้รวม (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) ทั้งสิ้น 44,398 ล้านบาท ลดลง 1,430 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีรายได้รวม 45,828 ล้านบาท หรือ 3.1% โดยมีสาเหตุหลักจากการแข่งขันที่สูงขึ้น และการแข็งค่าของเงินบาท โดยมีผู้โดยสารรวมทั้งสิ้น 3.89 ล้านคน มีอัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 76.1% ในงวดเดียวกันของปีก่อนเป็น 76.8%

บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายรวม (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) 35,841 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 7.2% โดยหลักจากค่าน้ำมันเครื่องบินที่ลดลงตามราคาน้ำมันเฉลี่ยที่ปรับตัวลง และการแข็งค่าของเงินบาท แม้ว่าปริมาณการใช้น้ำมันจะเพิ่มขึ้นตามจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น รวมถึงค่าซ่อมแซมและซ่อมบำรุงอากาศยานที่ลดลง ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรจากการดำเนินงานก่อนต้นทุนทางการเงิน (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) 8,557 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และมีอัตรากำไรจากการดำเนินงาน (EBIT Margin) อยู่ที่ 19.3%

บริษัทฯ มีต้นทุนทางการเงินซึ่งเป็นการรับรู้ตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 9 (TFRS 9) จำนวน 3,137 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1,692 ล้านบาท และมีรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวสุทธิเป็นค่าใช้จ่าย 993 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักจากผลขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ และขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศสุทธิ

ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 บริษัทฯ มีเครื่องบินที่ใช้ทำการบินทั้งสิ้น 78 ลำ

สำหรับงวด 9 เดือนแรกของปี 2568 มีกำไรสุทธิ (ส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่) จำนวน 26,369.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 15,195.20 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 26,394 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีกำไรสุทธิ 15,221 ล้านบาท และมี EBITDA 43,295 ล้านบาท

บริษัทฯ มีรายได้รวม (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) ทั้งสิ้น 140,850 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 3.7% มีอัตราการใช้เครื่องบินเฉลี่ย 13.5 ชั่วโมงต่อลำต่อวัน มีปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (ASK) เท่ากับ 52,954 ล้านที่นั่ง-กิโลเมตร เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 10.8% ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (RPK) เท่ากับ 41,870 ล้านคน-กิโลเมตรเพิ่มขึ้น 13.2% ส่งผลให้อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ย 79.1% สูงกว่าปีก่อนซึ่งเฉลี่ยที่ 77.4% และมีจำนวนผู้โดยสารที่ทำการขนส่งรวม 12.19 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 0.57 ล้านคน หรือคิดเป็น 4.9%

บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายรวม (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) 107,704 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 3.5% ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรจากการดำเนินงานก่อนต้นทุนทางการเงิน (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) 33,146 ล้านบาท สูงกว่างวดเดียวกันของปีก่อน 37.0% มีต้นทุนทางการเงินซึ่งเป็นการรับรู้ตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 9 (TFRS 9) จำนวน 10,010 ล้านบาท และมีรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวสุทธิเป็นรายได้รวม 3,266 ล้านบาท

ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวมจำนวน 299,730 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 จำนวน 7,222 ล้านบาท หรือ 2.5% หนี้สินรวมจำนวน 227,753 ล้านบาท ลดลงจาก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 จำนวน 19,166 ล้านบาท หรือ 7.8%

ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ และบริษัทย่อย 71,977 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 จำนวน 26,388 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีเงินสด และรายการเทียบเท่าเงินสด รวมสินทรัพย์ทางการเงินหมุนเวียนอื่น ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 จำนวน 123,189 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8,200 ล้านบาท จาก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567