ATLAS ตั้งเป้ายอดขายปี 2569 เติบโต 8-18% พร้อมเดินหน้าขยายสาขาร้านจำหน่าย GAS-สถานีบริการเพิ่ม พร้อมใช้เงินจาก IPO ลุยบุก 4 อุตสาหกรรม เน้นลดต้นทุน-สร้างความปลอดภัย นายสุวัชชัย พิทักษ์วงศากรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอตลาส เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ ATLAS เปิดเผยในงาน Opportunity Day ในวันนี้ว่า ในปีหน้าบริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายเติบโต 8-10% โดยตั้งเป้าหมายจะขยายร้านจำหน่าย GAS ใหม่ 130-150 แห่ง และมีสถานีบริการ หรือ Service Stations ใหม่ 8-10 แห่ง รวมถึงมีแผนจะสร้าง Customer Ecperience เพื่อสร้างการสั่งซื้อซ้ำ ความจงรักภักดีต่อสินค้า โดยบริษัทจะสร้างคุณภาพในการให้บริการ โดยจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบรับกับความต้องการของลูกค้า ความปลอดภัย เป็นต้น 
“ปี 2569 บริษัทตั้งเป้ายอดขายเติบโต 8-10% โดยจำนวนสาขาในภาคครัวเรือนมีแผนจะเปิดร้านจำหน่ายเพิ่มขึ้น และขยายสถานีบริการในภาครถยนต์ เพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งจะทำให้ยอดขายเติบโตต่อเนื่องจากปีนี้ และในมุมของรายได้สื่อโฆษณาจะเติบโตสอดคล้องกับ Touchpoint ที่มีอยู่ในปัจจุบัน”นายสุวัชชัย กล่าว ขณะเดียวกัน กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ บริษัทจะมุ่งสร้างช่องทางการจำหน่ายที่จะต้องครอบคลุมพื้นที่การให้บริการทั้งประเทศ ให้ได้มากและเร็วที่สุด โดยประเทศไทยมี 928 อำเภอ มีร้านจำหน่าย GAS ตามสาขาต่างๆ แล้ว มีจำนวน 25% ของอำเภอทั้งหมด โดยปีหน้าจะกระจายร้านจำหน่าย GAS ให้ได้ 35-40% ของอำเภอทั้งหมดของประเทศ “การให้บริการเป็นเรื่องสำคัญ สำหรับการรักษาฐานลุกค้า โดยปีหน้าจะเน้นการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าด้วย โดยบริษัทจำเป็นต้องนำเทคโนโลยีที่มีอยู่ รวมถึง Application ที่บริษัทใช้อยู่ด้วย ซึ่งปีหน้าจะใช้เทคโนโลยีมาช่วยสร้างความเชื่อมั่น ในคุณภาพในการให้บริการที่ดีขึ้น”นายสุวัชชัย กล่าว สำหรับเงินที่บริษัทได้ระดมทุนจากการจำหน่ายหุ้นไอพีโอ 1,255 ล้านบาท โดยจะใช้เงินในการขยายธุรกิจในภาคครัวเรือน 20-25% เนื่องจากวันนี้มาร์เก็ตไซต์เยอะที่สุดใน 3 เซกเตอร์ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทได้นำเงินไปขยาย โรงบรรจุแก๊ซ จุดกระจายสินค้า ร้านจำหน่าย และภาชนะในการบรรจุ ขณะที่ภาครถยนต์ใช้เงิน 25-30% โดยขยายจำนวนสถานีบริการเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการปรับปรุงสถานีบริการที่มีอยู่เดิม และสถานีบริการที่มีศักยภาพที่เพิ่มยอดขายและรายได้ได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะทำให้บริษัทสร้างรายได้ทำพื้นที่โฆษณาได้เพิ่มมากขึ้นด้วย สอดคล้องกับกลยุทธ์การสร้างรายได้จากทรัพย์สินที่มี ส่วนภาคอุตสาหกรรม คาดจะใช้เงิน 1% โดยจะขยายสถานีแก๊ซให้โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ และด้านที่ 4 จะใช้เงินจาก IPO ประมาณ 30% เพื่อขยายธุรกิจคลังแก๊ซ เมื่อมียอดขายที่เติบโต จำเป็นต้องมีคลังสำรองแก๊ซตามกฎหมายที่กำหนด และเพื่อลดต้นทุนด้านการขนส่ง เพื่อทำให้ต้นทุนดีขึ้น และการทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการผลิตถัง เนื่องจากภาคครัวเรือนเป็นธุรกิจที่บริษัทมุ่งเน้นที่จะขยายธุรกิจ ดังนั้น จำเป็นต้องสร้างคาวามปลอดภัยให้กับภาคครัวเรือน ดังนั้นโรงงานที่ผลิตถัง ถือเป็นอีกธุรกิจที่บริษัทสนใจ ทำให้ต้นทุนในการทำธุรกิจลดลงด้วย และสุดท้ายคือ 20% สำหรับใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ 
|