GPSC : บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่
3Q25 กำไรตามคาด

3Q25 กำไรตามคาดฟื้น y-y ตามต้นทุนลดลง แต่หดตัว q-q จากส่วนแบ่งการดำเนินงานบริษัทร่วมที่พลิกขาดทุนจาก Low season
มี upside จากการปรับโครงสร้างสินทรัพย์ของกลุ่ม PTT ที่หนุนต่อการดำเนินงานปีหน้า
ปัจจัยลบคลี่คลายลง และคาดจะเห็นความชัดเจนมากขึ้นทั้งในส่วน Direct PPA และอื่น ๆ

3Q25 กำไรสุทธิตามคาดที่ 1,742 ลบ. เพิ่มอย่างมีนัย y-y ผลบวกจากต้นทุนลดลง แต่หด -14% q-q จากการดำเนินงานบริษัทร่วมหดแรง : แยกตามธุรกิจดังนี้
โรงไฟฟ้า IPP ปริมาณขายไฟเพิ่มขึ้น +2% q-q จากปริมาณขายไฟโกลว์ไอพีพีเพิ่มขึ้น และเพิ่มขึ้นถึง +225% y-y จากปีก่อนที่โรงไฟฟ้าเก็คโค่วันผลิตเพียง 28 วันเท่านั้น รวมถึงปริมาณขายไฟของโกลว์ไอพีพีเพิ่มขึ้น ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มเป็น 23% จาก 19% ไตรมาสก่อน เนื่องจากต้นทุนถ่านหินใกล้เคียงกับรายได้ค่าถ่านหินที่เรียกเก็บจาก กฟผ. มากขึ้น

โรงไฟฟ้า SPP ปริมาณขายไฟ เพิ่มขึ้น +3% q-q แม้ขายไฟให้ EGAT ลดลงแต่ลูกค้า IU ดีขึ้นจากการกลับมาผลิตตามปกติจากไตรมาสก่อนมีหยุดซ่อม ขณะที่ปริมาณขายหด -3% y-y จากปริมาณขายไฟโรงไฟฟ้า GSPP3 ลดลงจากสัญญาซื้อขายไฟกับ กฟผ. หมดอายุเมื่อ ส.ค. 2024 ขณะที่ปริมาณขายไอน้ำเพิ่ม +13% q-q หลังลูกค้ากลับมาผลิตปกติ แต่หด -1% y-y จากลูกค้าบางรายหยุดซ่อมตามแผน ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มเป็น 27% จาก 23% ไตรมาสก่อน จากปริมาณขายไฟและไอน้ำให้ลูกค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น อีกทั้งในส่วนราคาก๊าซธรรมชาติลดลง -14% q-q แม้ว่าราคาขายเฉลี่ย Ft จะอยู่ที่ 18.39 สตางค์ลดลงจาก 25.39 สตางค์ก็ตาม

โรงไฟฟ้า VSPP ปริมาณขายไฟเพิ่ม +5% q-q และ +5% y-y จากปริมาณขายไฟของโรงไฟฟ้าขยะ RDF เพิ่มขึ้น เนื่องจากไตรมาสก่อนหน้ามีหยุดซ่อมตามแผน ขณะที่ปีก่อนหน้าหยุด ......... ซ่อมนอกแผน ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 66% จาก 57% q-q เนื่องจากไตรมาสก่อนหน้ามีหยุดตามแผนขณะที่ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้าพลิกมาขดาทุน 415 ลบ. จาก 584 ลบ. ใน 2Q25

ไซยะบุรี การดำเนินงานดีขึ้นเป็น 530 ลบ. จาก 112 ลบ. จากการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจากปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล
AEPL อ่อนแอพลิกเป็นขาดทุน -107 ลบ. จากกำไร 239 ลบ. ใน 2Q25 จากการลดลงตามฤดูกาล และไตรมาสก่อนมีรายการพิเศษเข้ามา
CFXD พลิกขาดทุนสูงถึง -921 ลบ. จากกำไร 204 ลบ. ใน 2Q25 เนื่องจากการลดลงตามฤดูกาลส่งผลให้การใช้กำลังการผลิต CUF (อัตราส่วนของพลังงานที่ผลิตได้จริงต่อพลังงานสูงสุดที่สามารถผลิตได้) อยู่ที่เพียง 11% หากเทียบกับช่วง Peak ใน 1Q25 จะสูงถึง 42% ส่งผลให้การดำเนินงานปกติขาดทุนอยู่ -565 ลบ.

แต่จากค่าเงินไต้หวันอ่อนค่าทำให้มีขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน -206 ลบ. และมีการปรับอายุการคิดค่าเสื่อมราคาอีก -150 ลบ. และมีกำไรจากการขาย AEPL 745 ลบ. ทำให้กำไรสุทธิอยู่ที่ 1,742 ลบ. -14% q-q

เก็งกำไรได้ต่อ
“ เราคาดแนวโน้มการดำเนินงานช่วง 4Q25 จะดีขึ้น q-q ส่วนหนึ่งจากต้นทุนที่ลดลง ขณะที่บริษัทร่วมทั้ง CFXD และ AEPL คาดการดำเนินงานจะดีขึ้นหลังเข้าสู่ฤดูกาลอีกครั้งและคาดจะไม่มีรายการพิเศษด้านลบที่มากอย่าง 3Q25 ที่ผ่านมา ยังเป็นตัวเลือกที่ชอบทั้งจากการดำเนินงานที่ดี และจะมีส่วนเพิ่มหากได้บริหารงานโรงไฟฟ้าจากกลุ่ม PTT ตามการปรับโครงสร้างธุรกิจ
ราคาหุ้นปรับลงมาจนมี upside เพิ่มขึ้น ทยอยซื้อสะสมได้ ”

นารี อภิเศวตกานต์
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน #17971
[email protected]