ธปท. เผยเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3/68 ชะลอลงจากไตรมาสก่อน เหตุภาคอุตสาหกรรมหยุดผลิตชั่วคราว-กระทบภาคบริการ มองแนวโน้มไตรมาส 4/68 ปรับดีขึ้น แต่ยังต้องจับตาความเสี่ยงภาษีทรัมป์-การท่องเที่ยว-มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายองค์กรสัมพันธ์ และโฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3/2568 ชะลอลงจากไตรมาสก่อน โดยเป็นผลจากการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ลดลงจากการหยุดผลิตชั่วคราวในบางสินค้า ส่งผลให้กิจกรรมภาคบริการที่เกี่ยวข้องปรับลดลง แต่ปรับดีขึ้นในช่วงปลายไตรมาส โดยในเดือน ก.ย. นี้ เศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น จากภาคการผลิตที่ทยอยกลับมาผลิตหลังจากการหยุดเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในช่วงก่อนหน้า ประกอบกับการส่งออกและรายรับนักท่องเที่ยวต่างชาติปรับเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม อุปสงค์ในประเทศชะลอลงทั้งการบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชน 
สำหรับการผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับเพิ่มขึ้นจากกลุ่มปิโตรเลียมและเครื่องดื่มที่กลับมาผลิตหลังหยุดผลิตชั่วคราวและการผลิตรถยนต์กลับมาเพิ่มขึ้นจากกลุ่ม EV ด้านการส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะหมวดอิเล็กทรอนิกส์ ขระที่การส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ ที่ถูกเก็บ Recieprocal tariffs ชะลอลงหลายรายการ ด้านจำนวนและรายรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยว 2.2 ล้านคน โดยเฉพาะจากมาเลเซียและอินเดีย จากวันหยุดยาวและมีเส้นทางการบินใหม่ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือน ก.ย. ที่ผ่านมาติดลบ 0.72% จากหมวดพลังงานและอาหารสด ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเป็นบวก 0.65% แต่ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ 0.81% ส่วนหนึ่งจากการทำโปรโมชั่นอาหารโทรสั่งและของใช้ส่วนตัว อย่างไรก็ตาม ประเมินว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า ภาคท่องเที่ยวมีแนวโน้มดีขึ้นส่วนหนึ่งจากปัจจัยฤดูกาล และการส่งออกมีแนวโน้มดีขึ้นตามอุสงค์ของสินค้าในกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่แนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 4/2568 ปรับดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า โดยมาตรการภาครัฐมีส่วนช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นและการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลปลายปี นางสาวชญาวดี กล่าวว่า ระยะต่อไปต้องติดตามการฟื้นตัวของการผลิตภาคอุตสาหกรรม , ผลกระทบของมาตรการภาษีนาเข้าของสหรัฐฯ , พัฒนาการในภาคการท่องเที่ยว และผลของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ นางปราณี สุทธศรี ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธปท. กล่าวว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนก.ย. นี้ ปรับเพิ่มขึ้นจากปัจจัยชั่วคราวทยอยคลี่คลาย และรายรับจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น ตามจำนวนนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวระยะใกล้ ขณะที่ภาคเกษตร พบว่า ลดลงจากเดือนก่อนหน้าค่อนข้างมาก เป็นผลจากผลไม้ โดยเฉพาะลำไย ทุเรียน มังคุด ที่ผลผลิตออกมาค่อนข้างสูงในช่วงก่อนหน้า ซึ่งเป็นปัจจัยชั่วคราวเท่านั้น ด้านอุปสงค์ ชะลอลงจากทั้งการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน ในขณะที่การส่งออกสินค้าปรับตัวดีขึ้น จากการส่งออกอิเล็กทรอนิกส์เป็นส่วนใหญ่ โดยการส่งออกในเดือน ก.ย. ขยายตัว 19.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับมาตรการคนละครึ่ง ธปท.ได้รวมในประมาณการที่เคยประเมินจีดีพีไว้ที่ 2.2% ไว้เรียบร้อยแล้ว โดยมองว่า เป็นผลเชิงบวกในเรื่องของความเชื่อมั่น ส่วนจะส่งผลทำให้จีดีพีขยายตัวได้เกินกว่า 2.2% หรือไม่นั้น จะต้องติดตามดูการใช้จ่ายว่าจะมีมากน้อยเพียงใด 
|