*** สัญญาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส (WTI) งวดส่งมอบเดือนธ.ค. ปิดที่ 59.44 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 1.30 ดอลลาร์ หรือ 2.1%

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนม.ค. ปิดที่ 63.67 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 1.22 ดอลลาร์ หรือ 1.08%

ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงเมื่อวันพุธ หลังจากมีรายงานว่า สหรัฐฯ กำลังผลักดันเพื่อยุติสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนอีกครั้ง รวมถึงร่างกรอบการทำงานเพื่อการนี้ โดยแหล่งข่าวสองรายเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า สหรัฐฯ ได้ส่งสัญญาณไปยังประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ว่าฝ่ายยูเครนต้องยอมรับกรอบการทำงานที่สหรัฐฯ ร่างขึ้น เพื่อยุติสงครามกับรัสเซีย ซึ่งเสนอให้สละดินแดนและอาวุธบางส่วน

*** สหรัฐฯ ขาดดุลการค้าลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ในเดือนส.ค. เนื่องจากภาคธุรกิจนำเข้าสินค้าน้อยลงท่ามกลางภาษีที่สูงขึ้น ซึ่งแนวโน้มนี้ หากยังคงอยู่ อาจเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 3 อย่างไรก็ดี การนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคได้ลดลงสู่ระดับเดียวกับเมื่อช่วงต้นของการแพร่ระบาดของโควิด-19 เช่นเดียวกับการนำเข้าสินค้าทุน ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์เสริมคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์โทรคมนาคมนั้น อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการใช้จ่ายของผู้บริโภคและภาคธุรกิจที่ชะลอตัวลงในไตรมาสที่ผ่านมา

ทั้งนี้ สำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจและสถิติ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เผยว่า การขาดดุลการค้าหดตัวลง 23.8% สู่ระดับ 59,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่ำกว่าที่ผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์โดยรอยเตอร์ที่คาดการณ์ว่า การขาดดุลการค้าจะลดลงไปอยู่ที่ 61,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

*** ธนาคารกลางสหรัฐฯ เผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินเดือนต.ค. ระบุว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟด มีความเห็นสวนทางกันเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมรอบที่ผ่านมา โดยมีมุมมองที่ต่างกันระหว่างตลาดแรงงานที่ชะงักงัน กับอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงสูง ว่าอะไรเป็นภัยคุกคามต่อเศรษฐกิจที่มากกว่ากัน ขณะที่แนวโน้มในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. มีความไม่แน่นอน ซึ่งเจ้าหน้าที่เฟดหลายคนกล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีก อย่างน้อยในปีนี้

*** สำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐฯ (BLS) เผยว่า จะไม่เผยแพร่รายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค. ฉบับเต็ม หลังจากที่รัฐบาลกลางสหรัฐฯ ต้องเผชิญการชัตดาวน์ยาวนานเป็นประวัติการณ์ โดยข้อมูลจ้างงานเดือนต.ค. จะเผยแพร่พร้อมรายงานเดือนพ.ย. แต่จะไม่มีการรวมตัวเลขว่างงานเดือนต.ค. เนื่องจากการปิดหน่วยงานรัฐบาลทำให้ไม่สามารถรวบรวมข้อมูลในช่วงดังกล่าวได้

*** หุ้นของ Nvidia พุ่งขึ้นมากกว่า 5% ในการซื้อขายหลังตลาดปิด หลังรายงานผลประกอบการและกำไรประจำไตรมาสที่ 3 ปีงบการเงิน 2026 สูงกว่าที่วอลล์สตรีทคาดการณ์ พร้อมเผยประมาณการไตรมาสที่ 4 แข็งแกร่งกว่าที่คาดไว้

รายได้ของ Nvidia ในไตรมาสล่าสุดอยู่ที่ 57,010 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่าประมาณการที่ 54,920 ล้านดอลลาร์ ขณะที่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 65% สู่ระดับ 31,910 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 1.30 ต่อหุ้น เพิ่มขึ้นจากระดับ19,310 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 78 เซนต์ต่อหุ้น ในช่วงเดียวกันของปีก่อน

บริษัทคาดว่า จะมีรายได้ประมาณ 65,000 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4 เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 61,660 ล้านดอลลาร์

*** Yann LeCun ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิก AI กลุ่มแรก ๆ ที่เข้าร่วมงานกับ Facebook เตรียมลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายนักวิทยาศาสตร์ AI ของบริษัท Meta Platforms บริษัทแม่ของ Facebook เพื่อก่อตั้งบริษัทสตาร์ทอัพที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี AI ประเภทเรียกว่า "เวิลด์โมเดล" (World model)

การลาออกครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่หน่วยงานด้าน AI ของ Meta กำลังวุ่นวาย ซึ่งหน่วยงานนี้มีการปรับปรุงครั้งใหญ่ในช่วงปีที่ผ่านมา หลังจากที่โมเดล Llama 4 ของบริษัทสร้างความผิดหวังให้กับนักพัฒนา

*** Saudi Aramco บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของซาอุดีอาระเบีย เผยว่าด้ลงนามในข้อตกลงเบื้องต้นจำนวน 17 ฉบับกับบริษัทในสหรัฐฯ โดยอาจมีมูลค่ารวมกว่า 30,000 ล้านดอลลาร์ โครงการเหล่านี้ครอบคลุมตั้งแต่ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG), บริการทางการเงิน, การผลิตวัสดุขั้นสูง และการจัดซื้อวัสดุและบริการต่าง ๆ ในระหว่างที่มกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบียเสด็จเยือนกรุงวอชิงตัน

*** สมาชิกวุฒิสภาของสหรัฐฯ ออกโรงเตือนการแข่งขันด้านอาวุธนิวเคลียร์ในตะวันออกกลาง หลังจากที่สหรัฐฯ และซาอุดีอาระเบียลงนามในข้อตกลงเบื้องต้นเกี่ยวกับความร่วมมือด้านพลังงานนิวเคลียร์พลเรือน โดยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา คริส ไรท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ, ดั๊ก เบอร์กัม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และเจ้าชายอับดุลอาซิซ บิน ซัลมาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานซาอุดีอาระเบีย ได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือด้านนิวเคลียร์พลเรือนเบื้องต้น ในโอกาสที่มกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน เสด็จเยือนทำเนียบขาวเป็นครั้งแรกในรอบกว่าเจ็ดปี

การเจรจาระหว่างทั้งสองประเทศว่าด้วยความร่วมมือด้านพลังงานนิวเคลียร์ได้ดำเนินมาเป็นเวลาหลายปี รวมถึงในช่วงสมัยบริหารของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดนด้วย แต่ไม่มีความคืบหน้ามากนัก เนื่องจากฝ่ายซาอุดีอาระเบียปฏิเสธเงื่อนไขของสหรัฐฯ ที่ไม่ต้องการให้มีการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม ซึ่งเป็นช่องทางที่อาจนำไปสู่การสร้างระเบิดนิวเคลียร์ได้

*** บรรดาผู้เชี่ยวชาญตั้งข้อสงสัยว่า ข้อตกลงที่ซาอุดีอาระเบียให้คำมั่นว่าจะลงทุน 1 ล้านล้านดอลลาร์ ในสหรัฐฯ ตามที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศออกมานั้น จะเป็นไปได้จริงหรือไม่ ข้อตกลงดังกล่าวเกิดขึ้นในระหว่างที่มกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ผู้ปกครองโดยพฤตินัยของซาอุดีอาระเบีย เสด็จเยือนสหรัฐฯ เพื่อเจรจาในหลายประเด็น ตั้งแต่ความมั่นคงไปจนถึงความร่วมมือด้านพลังงานนิวเคลียร์เชิงพลเรือน โดยผู้นำของทั้งสองประเทศได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือด้านกลาโหม และมีการหารือเกี่ยวกับการขายเครื่องบินขับไล่ F-35 ของอเมริกาแก่ราชอาณาจักร

*** OpenAI เปิดตัว ChatGPT for Teachers ซึ่งเป็นเวอร์ชันปัญญาประดิษฐ์ที่ออกแบบมาสำหรับคุณครูในระดับชั้นอนุบาล-มัธยมศึกษาปีที่ 6 โดย OpenAI ระบุว่า ครูสามารถใช้ ChatGPT เวอร์ชันนี้ในการบริหารจัดการข้อมูลของนักเรียนได้อย่างปลอดภัย รวมถึงบริการสนับสนุนด้านการเรียนการสอนที่ปรับให้เหมาะสมเฉพาะบุคคล และสร้างความร่วมมือกับเพื่อนร่วมงานในเขตการศึกษาของตนเอง

นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือควบคุมสำหรับผู้บริหารพื้นที่เขตการศึกษา สามารถนำมาใช้เพื่อกำหนดวิธีการทำงานของ ChatGPT for Teachers ภายในชุมชนของตนได้

*** รัฐบาลเนเธอร์แลนด์คืนอำนาจควบคุม Nexperia บริษัทผู้ผลิตชิป ให้แก่เจ้าของชาวจีน นับเป็นการยุติสถานการณ์ที่ตึงเครียดกับฝั่งจีน ที่เริ่มส่งผลกระทบต่อการผลิตรถยนต์ทั่วโลก โดยวินเซ็นต์ คาร์รีแมนส์ (Vincent Karremans) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการเศรษฐกิจ เผยว่า ได้ยกเลิกคำสั่งที่ให้อำนาจเนเธอร์แลนด์ในการบล็อกหรือแก้ไขการตัดสินใจของ Nexperia แล้ว ขณะที่การหารือกับทางการจีนยังคงดำเนินต่อไป

*** เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกล่าวว่า มีชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 25 คน ถูกสังหารจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล 4 ครั้งเมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่นในพื้นที่ส่วนหนึ่งของฉนวนกาซา ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มฮามาส นับตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในเดือนต.ค.

กองทัพอิสราเอลกล่าวว่า กองกำลังของตนได้โจมตีเป้าหมายของกลุ่มฮามาสทั่วกาซา หลังจากที่สมาชิกของกลุ่มติดอาวุธได้ยิงเข้าใส่กองกำลังทหารของอิสราเอล ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงที่มีผลมาเกือบหกสัปดาห์ โดยฝ่ายทหารอิสราเอลไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ