ญี่ปุ่น เปิดตัวหน่วยงานเพื่อกำกับดูแลด้านการตัดลดงบประมาณและรายจ่ายที่ไม่จำเป็น ที่เทียบได้กับกระทรวงประสิทธิภาพของรัฐบาล (Department of Government Efficiency - DOGE) ของสหรัฐฯ พร้อมจัดประชุมครั้งแรก เพื่อวางแผนเดินหน้าตรวจสอบและคัดกรองมาตรการภาษี รวมไปถึงเงินอุดหนุนที่ไม่มีประสิทธิภาพ ซัตสึกิ คาตายามะ (Satsuki Katayama) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวหลังการประชุมครั้งแรกของ DOGE ญี่ปุ่นว่า การลดค่าใช้จ่ายที่สิ้นเปลืองโดยอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย รวมถึงประชาชน และนำงบประมาณไปใช้ในด้านที่จำเป็นจริง ๆ จะช่วยสร้างความแตกต่างอย่างชัดเจนจากรัฐบาลก่อนหน้า พร้อมระบุว่า แนวทางดังกล่าวเป็นสิ่งจำเป็นต่อการรักษาความเชื่อมั่นต่อประเทศ ต่อสกุลเงิน และต่อตลาดการเงิน สำหรับ DOGE เวอร์ชันญี่ปุ่น คาดว่าจะมีแนวทางที่ผ่อนคลายกว่า DOGE เวอร์ชันสหรัฐฯ ที่เคยนำโดย อีลอน มัสก์ ที่นำไปสู่การปลดพนักงานภาครัฐเป็นจำนวนมาก ในทางกลับกัน ญี่ปุ่นมีแนวโน้มใช้การปรับลดรายจ่ายภาครัฐที่มีอยู่เป็นหลัก เพื่อสนับสนุนคำมั่นของนายกรัฐมนตรีซานาเอะ ทาคาอิจิ ที่ประกาศใช้นโยบายการคลังแบบเชิงรุกอย่างมีความรับผิดชอบ ซึ่งจนถึงขณะนี้ รัฐบาลได้เดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่มากที่สุด นับจากยกเลิกมาตรการควบคุมโควิด-19 และอนุมัติการออกพันธบัตรใหม่มูลค่ากว่า 10 ล้านล้านเยน (64,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) 
หน่วยงานใหม่นี้จัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ภายใต้รัฐบาลของนางทาคาอิจิ โดยมีภารกิจเพื่อทบทวนรายจ่ายและลดเงินอุดหนุนซ้ำซ้อน เพื่อปรับลดการใช้จ่ายที่ไม่มีประสิทธิภาพ แม้นางทาคาอิจิและคณะรัฐมนตรี จะย้ำว่าปริมาณการออกพันธบัตรรัฐบาลในปีงบประมาณปัจจุบัน ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือน มี.ค. จะไม่เกินระดับของปีก่อน แต่บรรยากาศในตลาดยังคงมีความกังวล โดยทาคาอิจิได้ยกเลิกเป้าหมายการทำงบดุลให้สมดุลในแต่ละปี และหันมาตั้งเป้าลดภาระหนี้สุทธิเมื่อเทียบกับขนาดเศรษฐกิจแทน ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร โดยเฉพาะอายุรุ่นอายุยาวพิเศษ ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงทุนตั้งคำถามต่อเหตุผลในการดำเนินนโยบายด้านการคลังของรัฐบาล ทั้งนี้ การจัดตั้ง DOGE รวมอยู่ในข้อตกลงที่พรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ลงนามร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาล JIP เมื่อเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่เปิดทางให้นางทาคาอิจิขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น ที่มา Bloomberg 
|