MRDIYT เล็งนำเงินระดมทุนใช้ขยายสาขาครบ 1,500 แห่ง ภายใน 3 ปี และก่อสร้างคลังสินค้าใหม่ระบบอัตโนมัติ คาดจะเริ่มเปิดดำเนินการปี 71 ด้าน FA ย้ำการขายหุ้นเดิมบนกระดานใหญ่ (Big log Board)เป็นเพียงการปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นภายใน ยันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อราคาเทรดในวันแรก

นายแอนดี้ ชิน กวานกุ้ย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ MRDIYT เปิดเผยว่าการนำหุ้น MRDIYT เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันแรกนั้น มีความตื่นเต้นมากและมองราคาหุ้นช่วงนี้ค่อนข้างไดนามิก อย่างไรก็ตามมีมุมมองแนวโน้มที่ดีขึ้นและบริษัทจะมุ่งเน้นการขยายสาขาต่อไปให้ได้ครบ 1,500 สาขา ภายใน 3 ปี รวมถึงโฟกัสในการสรรหาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสมให้กับลูกค้า

ทั้งนี้แนวโน้มการเติบโตของบริษัทเป็นไปในทิศทางที่ดี โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีแรกของปี 68 ที่รายได้เติบโต ขณะที่ในช่วงไตรมาส 3/68 ก็ยังมีการเติบโตในความเร็วที่ต่อเนื่องและจะมีการหาสินค้าเพิ่มเติมรวมถึงการขยายสาขาใหม่เพิ่มให้ได้ตามเป้าหมาย ประกอบกับตอนนี้บริษัทก็เริ่มมองหาแนวโน้มในการขยายสาขาใหม่ในปี 69 แล้ว

ขณะที่เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ แบ่งเป็น 1.บริษัทจะนำไปใช้ในการขยายสาขาใหม่และการขยายคลังสินค้า (Warehouse) เพิ่มเติมในการรองรับเน็ตเวิร์กของบริษัท, 2.ชำระคืนเงินกู้ของบริษัท และ3.ใช้เป้นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท

ส่วนเป้าหมายในการขยายสาขาใหม่นั้น คาดว่าปีนี้จะขยายสาขาใหม่จำนวน 200 สาขา ได้ตามเป้าหมาย ส่วนปี 69-70 ตั้งเป้าจะขยายสาขาใหม่อีกปีละ 200 สาขา รวมเป็น 1,500 สาขา ส่วนเป้าหมายในระยะกลางบริษัทกำลังลงทุนซื้อที่ดินขนาด 160 ไร่ เพื่อวางแผนที่จะก่อสร้าง Warehouse แบบระบบอัตโนมัติ ซึ่งคาดจะเริ่มเปิดดำเนินการปี 71 และสามารถเปิดดำเนินการแบบเต็มระบบภายในปี 73

นอกจากนี้มองว่าปัจจุบันยังมองไม่เห็นธุรกิจที่เป็นคู่แข่งโดยตรง เนื่องจาก MRDIYT มีรายการสินค้าสูงถึง 16,000 SKU แม้อาจมีสินค้าที่คล้ายคลึงกับธุรกิจอื่น แต่ก็ยังไม่มีคู่แข่งโดยตรง สำหรับเป้าหมายของบริษัทยังคงมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายและราคาที่คุ้มค่า รวมถึงเข้าถึงผู้บริโภคได้

นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) และในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น MRDIYT กล่าวว่าการขายหุ้นเดิมบนกระดานใหญ่ (Big log Board) โดยนายจอมพงษ์ มะลิพงษ์ จำนวนไม่เกิน 245 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 4% ให้แก่ผู้ถือหุ้นปัจจุบันนั้น เป็นเพียงการปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นภายในเท่านั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อการเทรดในวันแรก เนื่องจากเป็นการขายที่ราคา IPO ทั้งนี้ ภายหลังการขาย Big log จะส่งผลให้นายจอมพงษ์ มะลิพงษ์ เหลือจำนวนหุ้นในมือที่ 985,518,784 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 16.38% (จากเดิมมี 1,230,518,784 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 20.45%)

"มีคนเข้าใจผิดพอสมควรในเรื่องของ Big log จริงๆ เป็นการปรับโครงสร้างของผู้ถือหุ้นของ MRDIYT เอง โดยกลุ่มผู้ถือหุ้นรายหนึ่งขายให้กับอีกกลุ่มหนึ่ง แต่สุดท้ายสุดท้ายทั้ง 2 กลุ่ม ก็ยังคงมีหุ้นรวมกันเท่าเดิม ไม่ได้มีการขายออกมาในตลาด ซึ่งหลายๆ คนก็เข้าใจผิดและกังวลว่ามีการขายทิ้งออกมาในวันแรก ซึ่งไม่ใช่ อย่างไรก็ตามความจริงทุกอย่างได้มีการอธิบายอยู่ในหนังสือชี้ชวนอยู่แล้ว" นายพิเชษฐ กล่าว