ANAN เผยกำไร Q3/68 กว่า 130 ลบ. โต 380%YoY ดันงบ 9 เดือนกำไร 179 ลบ. โชว์ Backlog กว่า 5.7 พันลบ. ทยอยรับรู้ถึงกลางปีหน้า พร้อมเตรียมออกหุ้นกู้ชุดใหม่ จำนวน 2 ชุด ต้น ธ.ค.นี้ นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN เปิดเผยว่า ไตรมาส 3/68 มีกำไรสุทธิ 130 ล้านบาท เติบโตขึ้น 380% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ด้านกำไร 9 เดือนแรกของปี อยู่ที่ 179 ล้านบาท โดยในไตรมาสนี้มีการโอนกรรมสิทธิ์โครงการพร้อมเข้าอยู่ใหม่ภายใต้แบรนด์คัลเจอร์ 2 โครงการ ได้แก่ โครงการคัลเจอร์ ทองหล่อ และ โครงการคัลเจอร์ จุฬา ซึ่งสามารถสร้างยอดโอนได้ถึง 1,767 ล้านบาท และ มียอดขายสะสมรวมของทั้งสองโครงการแล้วกว่า 7,470 หรือ 76% ของมูลค่าโครงการ พร้อมกันนี้ ณ สิ้นไตรมาส 3 ยังมี Backlog รวมมูลค่า 5,703 ล้านบาท จากมูลค่าโครงการรวม 9,795 ล้านบาท ที่จะทยอยโอน และ รับรู้รายได้ต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 4/68 ไปถึงกลางปี 2569 สำหรับ Inventory ที่พร้อมรองรับการสร้างรายได้ของบริษัทฯ มีมูลค่ารวมทั้งสิ้นกว่า 26,211 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้ประกอบด้วย Backlog ซึ่งเป็นยอดขายที่รอการโอนกรรมสิทธิ์ มูลค่า 7,481 ล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้เป็นรายได้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2568 จนถึงปี 2569 
นอกจากนี้ บริษัทได้ให้ความสำคัญในการดูแลลูกค้าหลังการขาย ภายใต้มาตรฐาน ANANDA SURE ที่มีการดูแลลูกค้าในหลากหลายมิติ ด้วยมาตรฐานโครงสร้างระดับมืออาชีพ เริ่มตั้งแต่รากฐานที่แข็งแรงทั้งโครงสร้าง วัสดุ และระบบการก่อสร้างที่ได้มาตรฐาน ATQPM หรือ Ananda Total Quality Project Management ระบบบริหารคุณภาพโครงการที่อนันดาฯ ร่วมพัฒนากับพันธมิตรระดับโลกจากญี่ปุ่น เพื่อยกระดับมาตรฐานอสังหาริมทรัพย์ไทยให้มั่นใจได้ในทุกสถานการณ์ ประกอบกับ ยังได้จับมือกับ 2 พันธมิตรระดับโลก โดยการจับมือกับกลุ่มดุสิตธานี และ The Ascott Limited เพื่อเป็นการยกระดับประสบการณ์การอยู่อาศัยในทุกมิติ ด้วยมาตรฐานการบริหารงานนิติบุคคลระดับโรงแรมห้าดาว โดยโครงการ COCO PARC อยู่ภายใต้การดูแลของ กลุ่มดุสิตธานี ผ่านทีมงาน Dusit Hospitality Services บริษัทในเครือผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารที่พักอาศัยระดับบน มอบมาตรฐานบริการระดับโลกที่ผสานความหรูหรากับวิถีชีวิตคนเมืองได้อย่างลงตัว ขณะที่โครงการ CULTURE Thonglor และ CULTURE Chula อยู่ภายใต้การบริหารของ The Ascott Limited ผู้นำด้านเซอร์วิสเรสซิเดนซ์ระดับ World Class เข้ามายกระดับประสบการณ์การอยู่อาศัยให้กับลูกบ้าน ผ่านการบริหารจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการตามมาตรฐานโรงแรมห้าดาว มอบทั้งความสะดวกสบายและความเอ็กซ์คลูซีฟในทุกมิติของการใช้ชีวิต พร้อมสร้างคอมมูนิตี้ของคนเมืองที่เชื่อมโยงผู้คนและไลฟ์สไตล์อย่างลงตัว บริษัทยังมีโครงการ Porsche Design Tower Bangkok ในระดับ Ultra Luxury Segment มูลค่าโครงการกว่า 15,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนา พร้อมทั้งขยายพอร์ตสู่ภูเก็ต ด้วยเมกะโปรเจกต์ บนพื้นที่กว่า 550 ไร่ ท่ามกลางผืนป่าเขากมลา กับโครงการ MIRA Valley มูลค่าโครงการกว่า 50,000 ล้านบาท เพื่อสร้างฐานรายได้ระยะยาวอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนให้กับบริษัท อย่างไรก็ตาม บริษัทได้มีการเตรียมออกหุ้นกู้ชุดใหม่ ซึ่งเป็นหุ้นกู้มีหลักประกัน โดยหลักประกันเป็นที่ดินใจกลางภูเก็ตบนทำเลศักยภาพ พื้นที่ประมาณ 251 ไร่ 1 งาน 57.4 ตร.ว. คิดเป็นมูลค่าทรัพย์สินรวมทั้งสิ้นประมาณ 2,344 ล้านบาท มีอัตราส่วนไม่ต่ำกว่า 1.50 เท่าของมูลค่าหุ้นกู้ที่ออกและเสนอขายได้ จำนวน 2 ชุด อายุ 1 ปี 9 เดือน อัตราดอกเบี้ย [6.90]% ต่อปี และอายุ 2 ปี 3 เดือน อัตราดอกเบี้ย [7.20]% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายแก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ โดยนักลงทุนสามารถจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และ ทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท และคาดเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 3-4 และ 8 ธันวาคม 2568 นี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนบริหารจัดการทางการเงินที่รอบคอบ เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และ เสริมสภาพคล่องให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น "อนันดาฯ ยังคงเชื่อมั่นในศักยภาพของตลาดที่อยู่อาศัยในเมือง ซึ่งยังคงมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่มองหาที่อยู่อาศัยพร้อมอยู่ในทำเลศักยภาพ ตอบโจทย์ทั้งคุณภาพชีวิตและการเดินทางที่สะดวกสบาย เราเชื่อว่าตลาดที่อยู่อาศัยในเมืองไทยยังมีโอกาสในการเติบโตอีกมาก และ อนันดาฯ พร้อมจะเป็นผู้นำในการสร้างสรรค์โครงการที่มีคุณค่า มีคุณภาพ และ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนเมืองยุคใหม่อย่างแท้จริง เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนให้กับบริษัทฯ ในระยะยาว"นายประเสริฐ กล่าว |