BTS ปรับลดเป้ารายได้ปีนี้เหลือ 27,500 ล้านบาท หลัง VGI ปรับลดเป้ารายได้ ส่วน Rabbit- ROCTEC’s โตตามเป้า ชี้ กทม.ชำระหนี้ O&M ช่วยหนุนสภาพคล่อง-แย้มอยู่ระหว่างพิจารณาจ่ายปันผล นางสาวชวดี รุ่งเรือง ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน เจ้าหน้าที่นักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS เปิดเผยในงาน Opportunity Day ว่า บริษัทปรับเป้ารายได้จากการดำเนินงานมาอยู่ที่ 27,500 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากประมาณการเดิมที่ 28,500 ล้านบาท โดยเป็นผลจากการปรับลดเป้ารายได้ของ บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI ขณะที่หน่วยธุรกิจอื่นๆ คาดว่าจะเป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดย Rabbit น่าจะได้อานิสงส์จากภาคการท่องเที่ยว และการรับรู้รายได้ ROCTEC’s ประเมินว่าการรับรู้รายได้ยังเป็นไปตามแผนที่วางไว้ และมีงานในมือที่ทยอยรับรู้รายได้ 
สำหรับเงินชำระหนี้จากกรุงเทพมหานคร 36,000 ล้านบาท ได้นำฝากสถาบันการเงินเพื่อรอใช้จ่ายในอนาคต ส่วนหนึ่งนำไปลดหนี้และฝากธนาคารทำให้มีดอกเบี้ยรับเพิ่มขึ้นมา บริษัทยังคงเป้าหมาย EBITDA ที่ 12,000 ล้านบาท โดยได้รับแรงสนับสนุนจาก Rabbit และ ROCTEC’s “การชำระหนี้คืนของ กทม. คาดว่าจะมีกำไรส่วนอื่นมาชดเชยบางส่วน และเงิน O&M รายเดือนประมาณ 700 ล้านบาท คาดว่าจะมีเข้ามาเป็นรายเดือนจากนี้ โดยจะเสริมสภาพคล่องให้กับบริษัทได้ ส่วนเรื่องการจ่ายเงินปันผลอยู่ระหว่างการพิจารณา โดยจะต้องดูเรื่องของกำไร แผนลงทุนในอนาคต”นางสาวชวดี กล่าว นายกันต์ธร ทองมูล เจ้าหน้าที่นักลงทุนสัมพันธ์ BTS กล่าวว่า ภายหลังจากที่กรุงเทพมหานครชำระหนี้ O&M ทั้งหมดในเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา โดยบริษัทได้ปรับลดคาดการณ์รายได้ดอกเบี้ยจากธุรกิจระบบขนส่งมวลชนลดลงเหลือ 3,000 ล้านบาท ส่งผลให้ Expected Positive CFO อยู่ 38,000 ล้านบาท และอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 1.07 เท่า ส่วนแนวโน้มของ VGI ใน 2568/2569 ภายใต้สมมติฐานภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนตัว และระมัดระวังมากขึ้น ทางฝั่งโฆษณาและการใช้จ่ายภาคค้าปลีก VGI ได้ปรับลดประมาณการรายได้ทั้งปีจาก 6,000 ล้านบาท เหลือ 5,000-5,500 ล้านบาท และปรับงบลงทุนทั้งปีจาก 1,000 ล้านบาท เหลือ 500 ล้านบาท โดยให้ความสำคัญกับโครงการที่ส่งเสริม Ecosystem ของกลุ่มธุรกิจและสร้างคุณค่าให้ผู้ถือหุ้นในระยะยาว ส่วนธุรกิจ Rabbit ที่ BTS ถือหุ้น 60% โดยบริษัทยังเดินหน้าตามกลยุทธ์การขายทรัพย์สิน โดยรวมถึงการขายพื้นที่เชิงพาณิชย์ โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2569 นางศิริเพ็ญ หวังดำรงเวศ ผู้จัดการกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชยทางราง บีทีเอสโกรท กล่าวว่า ด้านแนวโน้มอัตราผู้โดยสารคาดว่าจะปรับลดลงเล็กน้อย คาดว่าจะอยู่ที่ 100 ล้านเที่ยว โดยปัจจัยที่มีผลกระทบ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง และจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงด้วย ขณะเดียวกันยังมีเหตุการณ์เรื่องการปรับราคาในช่วงต้นปี แต่ประเมินว่าจะค่อยๆปรับตัวดีขึ้นได้ ส่วนการปรับค่าโดยสารสายสีเขียวส่วนหลัก ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาและจะนำเสนอ กรุงเทพมหานคร ต่อไป ขณะที่สายสีเขียวส่วนต่อขยาย ที่เข้าร่วมโครงการ "คนละครึ่ง" ทำให้ผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 2.4% และสิ้นสุดโครงการ คาดว่าจะทำให้ผู้โดยสารปรับลดลงบ้าง 
|