ประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ ผู้นำไต้หวัน เผยต่อสื่อมวลชนว่า ไต้หวันเตรียมเพิ่มงบประมาณด้านการป้องกันประเทศอีก 1.25 ล้านล้านดอลลาร์ไต้หวัน หรือราว 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่จีนยังคงเดินหน้ากดดันทางการทหารใกล้เกาะไต้หวัน ผู้นำไต้หวันกล่าวว่า จีนยังคงเดินหน้าซ้อมรบทางทหาร รวมถึงสิ่งที่เรียกว่า "การคุกคามในเขตพื้นที่สีเทา (Gray-zone harassment)" รอบเกาะ โดยมีเป้าหมายใช้กำลังยึดเกาะให้ได้ภายในปี 2027 คำพูดของประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ เกิดขึ้นหลังข้อพิพาททางการทูตระหว่างจีนและญี่ปุ่นเกี่ยวกับประเด็นไต้หวัน เขายังกล่าวว่า จีนได้ยกระดับปฏิบัติการแทรกซึมและสร้างอิทธิพล โดยใช้เครื่องมือหลากหลายรูปแบบเพื่อแทรกแซงการเมืองและสังคมของไต้หวัน รวมถึงพยายามโน้มน้าวความคิดเห็นของสาธารณชน และบ่อนทำลายประชาธิปไตยของเกาะ นอกจากนี้ ยังเตือนถึงการเสริมกำลังทางทหารของจีนอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และการยั่วยุที่เพิ่มขึ้นบริเวณช่องแคบไต้หวันในทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้ รวมถึงในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก ที่ผ่านมา จีนถือว่าไต้หวันเป็นดินแดนของตนเอง ขณะที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน มองว่าการรวมไต้หวันกับจีนแผ่นดินใหญ่เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในเชิงประวัติศาสตร์ ซึ่งไต้หวันปฏิเสธคำกล่าวอ้างเหล่านั้น ขณะเดียวกัน จีนยังเพิ่มแรงกดดันต่อไต้หวันและจัดซ้อมรบทางทหารนอกเกาะไต้หวันหลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีมานี้ พร้อมออกคำเตือนที่แข็งกร้าวต่อการยั่วยุที่สื่อถึงการประกาศเอกราชของไต้หวัน การวิเคราะห์ของ Center for Strategic and International Studies บ่งชี้ว่า จีนได้เพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมอีก 7.2% ในปีนี้ มาอยู่ที่ 245,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมติดตั้งอาวุธยุทโธปกรณ์อย่างหนาแน่นใกล้ช่องแคบไต้หวัน ก่อนที่ประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ จะแถลงต่อสื่อไม่นาน โฆษกของสำนักงานกิจการไต้หวัน ประจำสภาแห่งรัฐของจีน ย้ำในการแถลงข่าวว่า จีนจะขัดขวางความพยายามใด ๆ ก็ตามที่สนับสนุนความเป็นเอกราชของไต้หวัน พร้อมทั้งตำหนิพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (Democratic Progressive Party) ของผู้นำไต้หวันว่ากำลังบ่อนทำลายโอกาสการเติบโตของไต้หวัน ที่มา CNBC 
|