CRC เดินหน้าแผน New Heights Next Growth ตั้งเป้ายอดขายปี 69-71 เติบโต High Single digit ลุยขยายธุรกิจในไทย-เวียดนาม พร้อมทุ่มงบลงทุนรวม 50,000-55,000 ลบ. พร้อมเล็งหาโอกาสใหม่ในอาเซียน เตรียมจ่ายปันผลพิเศษรอบแรก 0.70 บ./หุ้น ธ.ค.นี้ หลังได้รับเงินจากการขายธุรกิจในอิตาลี นางสาวรังสิรัชต์ พรสุธี Head of Investor Relations and Risk Management บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC เปิดเผยในงาน Opportunity Day ในวันนี้ว่า บริษัทตั้งเป้าหมายใน 3 ปีข้างหน้า จะมียอดขายเติบโต High Single digit โดยแบ่งเป็นในไทย จะอยู่ในกรอบ High Single digit และเวียดนามมีการเร่งการขยายการเติบโตให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจของประเทศ โดยมองว่ายอดขายจะเติบโต Double digit Growth 
ส่วนงบลงทุน บริษัทตั้งงบลงทุนใน 3 ปีข้างหน้า คาดว่าจะใช้งบลงทุนรวม 50,000-55,000 ล้านบาท โดยการขยายธุรกิจในเวียดนาม ซึ่งจะมุ่งเน้นการลงทุน และเพิ่มงบลงทุนเป็น 2 เท่า โดยเฉพาะการเดินหน้าขยายสาขาในธุรกิจหลัก คือ ศูนย์การค้า GO! ที่จะขยาย 10-12 สาขา และซุปเปอร์มาร์เกต go! ตั้งเป้าหมายขยาย 23-25 สาขา ส่วนไทยจะมีการขยายสาขา 74-85 สาขา ทั้งนี้ 3 ปีข้างหน้า กลยุทธ์ของบริษัทจะอยู่ภายใต้กลยุทธ์ New Heights Next Growth ประกอบด้วย 1.มุ่งเน้นเข้าใจ เข้าถึงลูกค้า 2.เสริมแกร่งธุรกิจหลักทั้งในไทย และเวียดนาม ทั้งการเติบโตอย่าง Organic และ พิจารณาการมองหาการลงทุน M&A 3.การเร่งการเติบโตใหม่ๆ จากธุรกิจใหม่ๆ 4.การขยายความร่วมมือทั้งใน BU ที่มีอยู่ หรือในไทยและเวียดนาม 5.มุ่งเน้นการบริหารจัดการด้านการเงินอย่างระมัดระวัง และมีประสิทธิภาพ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด “กลยุทธ์ของบริษัทหลังจากการขายธุรกิจในอิตาลี บริษัทจะมุ่งเน้นการจัดสรรเงินลงทุน ทีมบุคลากรไปยังไทย และเวียดนาม และพร้อมหาโอกาสการขยายธุรกิจในประเทศต่างๆในอาเซียน ซึ่งบริษัทมีการศึกษาตลอดเวลาในช่วงที่ผ่านมา”นางสาวรังสิรัชต์ กล่าว นางสาวรังสิรัชต์ กล่าวถึงการดำเนินธุรกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ว่า ในช่วงไตรมาส 4/256 สำหรับไทวัสดุจะเปิดเพิ่ม 2 สาขา และสาขาที่ปรับปรุง (renovation) จะแล้วเสร็จรวม 3 สาขา ขณะที่ธุรกิจ FOOD ในช่วงที่มีผ่านมามีการเปิดสาขา 1 สาขาที่ Central Park ส่วน GO Wholesale ในปีนี้จะมีสาขารวมทั้งสิ้น 14 สาขา “เป้าหมายทั้งปียอดขายทั้งปียังมองบวก โดยในช่วงไตรมาสสุดท้าย จะเป็นช่วงไฮซีซั่น ซึ่งยอดขายจะเติบโตได้ดีกว่าช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมาด้วย”นางสาวรังสิรัชต์ กล่าว ขณะที่ในเวียดนาม Central จะมุ่งมั่นที่จะขยายธุรกิจในเวียดนามอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าทั้งปี 2568 จะมีสาขา GO! Mall รวมทั้งสิ้น 44 สาขาทั่วประเทศในเวียดนาม ส่วนการปรับปรุงสาขา GO! Thang Long คาดว่าจะเปิดได้ในช่วงเดือน พ.ย.นี้ GO! Dong Nai คาดว่าจะเปิดได้ในช่วงเดือน ธ.ค.นี้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อค่าเช่าในปีหน้า นางสาวรังสิรัชต์ กล่าวถึงความคืบหน้าหลังจากที่บริษัทได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้น ให้ขายธุรกิจ Rinascente ในอิตาลี ว่า การดำเนินการดังกล่าว เพื่อให้บริษัทโฟกัสการทำธุรกิจในภูมิภาคอาเซียนที่มี Hight Growth ซึ่งคือ ไทยและเวียดนาม และประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียน โดยคาดว่าการโอนหุ้นดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในเดือน พ.ย.นี้ และบริษัทจะได้รับเงินจากการทำธุรกรรม 13,000 ล้านบาท หลังจากนั้น คณะกรรมการบริษัทจะพิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 1 จำนวน 4,200 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.70 บาทต่อหุ้น โดยจะสามารถจ่ายได้ภายในเดือน ธ.ค.นี้ ส่วนการจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 2 บริษัทจะดำเนินการให้ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2569 อนุมัติการจ่ายเงินปันผลพิเศษครั้งที่ 2 ประมาณ 3,500 ล้านบาท หรือ 0.58 บาทต่อหุ้น พร้อมการจ่ายเงินปันผลประจำปี ซึ่งการประชุม AGM ปีหน้าจะเกิดขึ้นในเดือน เม.ย.2569 และจ่ายเงินปันผลได้ไม่เกิน พ.ค.2569 
|