ความผันผวนอย่างรุนแรงในการซื้อขายระหว่างวันที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้ดัชนีหลักร่วงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่าสองเดือน ท่ามกลางความสงสัยของนักลงทุนว่าเกิดอะไรขึ้นในวอลล์สตรีท ขณะที่ดัชนี Nasdaq 100 ดิ่งลงเกือบ 5% จากจุดสูงสุดของวัน โดยไร้ปัจจัยที่ชัดเจน เทรดเดอร์ในตลาดระบุว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดแรงเทขายอาจเกิดจากปัจจัยดังต่อไปนี้ - ความกังวลแนวโน้ม AI: ความกังวลที่กลับมาอีกรอบว่า การลงทุนในโครงการปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะสร้างรายได้หรือผลกำไรมากพอหรือไม่ เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายมหาศาลที่ลงทุนไป
- รายงานการจ้างงาน: นักลงทุนบางส่วนมองว่า รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย. ที่ออกมาล่าช้า อาจเป็นสัญญาณว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะไม่ลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในปีนี้
- สัญญาณความเสี่ยงฝั่ง Bitcoin: สัญญาณ Risk-off ที่สะท้อนมาจากราคา Bitcoin ที่ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบหกเดือน มีส่วนทำให้ตลาดหุ้นร่วง
- ความผันผวนในตลาดออปชัน: ความผันผวนที่เพิ่มขึ้นก่อนที่สัญญาสิทธิล่วงหน้า (Option) จะหมดอายุในวันศุกร์ (21 พ.ย.) เป็นปัจจัยที่ถูกกล่าวถึงเช่นกัน
บรรยากาศการซื้อขายที่ร่วงลงระหว่างวัน บดบังปัจจัยบวกในช่วงต้นที่ได้แรงหนุนจากการประกาศรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสของ Nvidia รวมถึง Walmart ที่แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคยังคงใช้จ่าย ส่งผลให้ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 1.6% หลังจากที่เพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 1.9% ในช่วงต้นของการซื้อขาย ส่งผลให้มูลค่าตลาดหายไปกว่า 2.7 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่ดัชนี VIX ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ความผันผวนของตลาด ปิดเหนือระดับ 26 เป็นครั้งแรกนับตั้งเดือนเม.ย. ฝั่งดัชนี Nasdaq 100 ปิดลดลง 2.4% นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ ได้แก่ Tesla, Alphabet, Apple, Microsoft, Broadcom และ Amazon.com ซึ่งมูลค่าตลาดของแต่ละแห่งมีการเปลี่ยนแปลงกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์ โดยราคาปัจจุบันของดัชนี Nasdaq 100 ลดลงไปแล้ว 7.9% จากจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้เมื่อวันที่ 29 ต.ค. 
ขณะที่ดัชนี VXN ซึ่งเป็นดัชนีวัดความผันผวนของ Nasdaq 100 พุ่งสูงกว่าระดับ 32 เป็นครั้งแรกนับจากเดือนเม.ย. ก่อนที่จะสัญญาออปชันซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 3.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ จะหมดอายุในวันนี้ ในจำนวนนี้ มีสัญญาในดัชนี S&P 500 มูลค่า 1.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และออปชันหุ้นรายตัวอีก 725,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมอยู่ด้วย ด้านหุ้น Nvidia ปิดลดลง 3.2% หลังจากที่บวก 2.4% ในช่วงต้นของการซื้อขาย และเป็นปัจจัยสำคัญที่ฉุดดัชนี Nasdaq 100 ร่วงลง ขณะที่มูลค่าตลาดของผู้ผลิตชิป AI ยักษ์ใหญ่ หายไปเกือบ 400 ,000 ล้านดอลลาร์จากจุดสูงสุดระหว่างวัน ฝั่งดัชนีหุ้นกลุ่มเสี่ยง พบว่า ดัชนีหุ้นที่มีการขายชอร์ตมากที่สุด ร่วงลง 3.5% ดัชนีบริษัทเทคโนโลยีที่ไม่ทำกำไรของ Goldman Sachs Group ร่วงไป 3.7% และดัชนี Russell Microcap Index ลดลง 1.9% ความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ - Brent Schutte จาก Northwestern Mutual Wealth Management Company มองว่า ปัจจัยฝั่ง Nvidia ต้องนำมาพิจารณาร่วมกับปัจจัยอื่น ๆ ที่ยังไม่มีข้อสรุปในระยะสั้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน, ภาษี, อัตราเงินเฟ้อ, ทิศทางในอนาคตของเฟด, ความยั่งยืนของ AI, การประเมินมูลค่าหุ้น, ความกังวลเกี่ยวกับตลาดสินเชื่อภาคเอกชน, การถอนตัวจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ไม่มีกำไร และสกุลเงินดิจิทัล พูดง่ายๆ คือ มีคำถามทางเศรษฐกิจและตลาดหุ้นที่ยังไม่มีคำตอบอีกมากมายที่นักลงทุนกำลังถกเถียงกันอยู่
- Frank Monkam จาก Buffalo Bayou Commodities ให้ความเห็นว่า ตลาดคริปโทฯ กำลังเข้าสู่ภาวะตลาดหมี ขณะที่กระบวนการ Cross-asset deleveraging cascade หรือการขายสินทรัพย์เพื่อเอาเงินไปคืน ยังไม่จบลง การที่ตลาดคริปโทฯ มีนักลงทุนรายย่อยจำนวนมาก ซึ่งเป็นกลุ่มที่นำตลาดสูงขึ้นตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิ ความเปราะบางจึงเห็นได้ชัด
- Sameer Samana จาก Wells Fargo Investment Institute ระบุว่า ผลประกอบการของ Nvidia แม้จะออกมาเป็นบวก แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะคลายความสงสัยว่ามูลค่าหุ้นสูงเกินไปหรือไม่ และการที่บริษัทโฟกัสกับการระดมทุนด้วยการออกหนี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการเร่งลงทุนที่มากเกินไป โดยไม่ให้ความสำคัญกับผลตอบแทนผู้ถือหุ้นมากพอ
ที่มา Bloomberg 
|