กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร (OPEC+) มีมติปรับเพิ่มเป้าหมายการผลิตน้ำมันสำหรับเดือนธ.ค.เพียงเล็กน้อย และจะชะลอการเพิ่มกำลังการผลิตในไตรมาสแรกของปีหน้า เนื่องจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นว่าตลาดอาจเผชิญภาวะน้ำมันล้นตลาด

ในการประชุมวันอาทิตย์ที่ผ่านมา สมาชิก OPEC+ จำนวน 8 ประเทศ ซึ่งประกอบด้วย ซาอุดีอาระเบีย รัสเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อิรัก คูเวต โอมาน คาซัคสถาน และแอลจีเรีย มีมติร่วมกันให้เพิ่มเป้าหมายการผลิตน้ำมันเดือนธ.ค.อีก 137,000 บาร์เรลต่อวัน เท่ากับระดับการเพิ่มในเดือนต.ค.และพ.ย.ที่ผ่านมา และตัดสินใจชะลอการเพิ่มกำลังการผลิตในเดือนม.ค. - มี.ค. 2026 เนื่องจากปัจจัยตามฤดูกาลที่ส่งผลต่ออุปสงค์น้ำมัน

นับตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา OPEC+ ได้ปรับเพิ่มเป้าหมายการผลิตรวมราว 2.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือประมาณ 2.7% ของอุปทานน้ำมันทั่วโลก ก่อนเริ่มชะลอการเพิ่มเป้าหมายลงตั้งแต่เดือนต.ค. หลังมีการคาดการณ์ว่าอาจเกิดภาวะน้ำมันล้นตลาดในอนาคตอันใกล้ โดยมาตรการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตกรอบใหม่ต่อรัสเซีย ซึ่งเป็นสมาชิกหลักของ OPEC+ ได้เพิ่มความซับซ้อนให้กับกลยุทธ์การผลิต เนื่องจากรัสเซียอาจประสบปัญหาในการเพิ่มการผลิต หลังสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร ประกาศคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อบริษัทน้ำมันรายใหญ่ของรัสเซีย ได้แก่ Rosneft และ Lukoil

ช่วงเดือนม.ค. ถึง มี.ค. มักเป็นไตรมาสที่อุปสงค์น้ำมันต่ำที่สุดของปี โดยราคาน้ำมันเคยร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือนที่ประมาณ 60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเมื่อวันที่ 20 ต.ค. จากความกังวลเรื่องน้ำมันล้นตลาด ก่อนจะดีดกลับมาที่ราว 65 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จากผลของมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียและความหวังต่อการเจรจาการค้าของสหรัฐฯ

ฮอร์เก ลีออน จากบริษัท Rystad กล่าวว่า “OPEC+ กำลังส่งสัญญาณหยุด แต่เป็นการหยุดที่มีการคำนวณไว้ล่วงหน้า” โดยระบุว่าการคว่ำบาตรผู้ผลิตรัสเซียได้สร้างความไม่แน่นอนรอบใหม่ให้กับการคาดการณ์อุปทาน และกลุ่มรู้ดีว่าการเร่งผลิตในตอนนี้อาจส่งผลย้อนกลับในภายหลัง “การชะลอในครั้งนี้ เป็นการปกป้องราคา สะท้อนความเป็นเอกภาพ และซื้อเวลาเพื่อประเมินผลของการคว่ำบาตรต่อการส่งออกน้ำมันรัสเซีย” ด้านนักวิเคราะห์จาก Energy Aspects กล่าวเสริมว่า การตัดสินใจชะลอในไตรมาสแรก ถือเป็นการแสดงให้เห็นว่า OPEC+ กำลังบริหารตลาดเชิงรุกในช่วงที่อุปสงค์ต่ำสุดของปี

ทั้งนี้ OPEC+ เคยลดการผลิตลงในช่วงหลายปีก่อนหน้า โดยจุดสูงสุดของการลดเกิดขึ้นในเดือนมี.ค. คิดเป็นปริมาณรวม 5.85 ล้านบาร์เรลต่อวัน แบ่งเป็นการลดโดยสมัครใจ 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน การลดอีก 1.65 ล้านบาร์เรลต่อวันจาก 8 ประเทศสมาชิก และการลดเพิ่มเติมอีก 2 ล้านบาร์เรลต่อวันโดยกลุ่มทั้งหมด ซึ่งส่วนของการลดรอบสุดท้ายนี้จะคงอยู่ไปจนถึงสิ้นปี 2026

สมาชิก 8 ประเทศของ OPEC+ จะประชุมกันอีกครั้งในวันที่ 30 พ.ย. นี้

ที่มา Reuters