BCH เผยกำไรไตรมาส 3/68 ที่ 347 ลบ.ลดลง 23.4% หลังผู้ป่วยประกันสังคมลดลง - ต่างชาติชะลอจากปัญหาขายแดน ส่วน 9 เดือน กำไร 1,056 ลบ. โต 0.8% มั่นใจ Q4/68 เติบโตต่อเนื่อง เหตุเข้าสู่ไฮซีซั่น บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH เปิดเผยผ่านตลาดทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ว่า ไตรมาส 3/68 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจำนวน 347.3 ล้านบาท ลดลง 23.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยอัตรากำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทเท่ากับ 11.4% ในขณะที่กำไรก่อนต้นทุนทางการเงิน ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA)จำนวน 726.7 ล้านบาท ลดลง 17.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมี EBITDA margin ที่ 23.8% สำหรับรายได้รวมจำนวน 3,053.4 ล้านบาท ลดลง 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งออกเป็น รายได้จากผู้ป่วยในโครงการประกันสังคมลดลง 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุมาจากฐานสูงเนื่องจากการรับรู้รายได้ส่วนเพิ่มจากการรักษาผู้ป่วย 26 โรคเรื้อรังในไตรมาสที่ 3/67 จำนวน 77.1 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หากไม่รวมรายได้ดังกล่าว ผู้ป่วยในโครงการประกันสังคมยังคงเติบโตได้ 1% จากการเติบโตของการให้บริการรักษากลุ่ม 26 โรคเรื้อรัง การให้บริการตรวจโรคหยุดหายใจขณะหลับ การผ่าตัดแบบวันเดียวกลับ สำหรับรายได้จากผู้ป่วยทั่วไปลดลง 8.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งออกเป็นรายได้จากผู้ป่วยนอกลดลง 7.6% และ รายได้จากผู้ป่วยในลดลง 8.7% โดยมีสาเหตุหลักมาจากการลดลงของโรคระบาดตามฤดูกาลในช่วงเดือนกรกฎาคมสิงหาคม 2568 และ การลดลงของผู้ป่วยชาวต่างชาติจากความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา อย่างไรก็ตาม รายได้ผู้ป่วยทั่วไปเริ่มกลับมาเติบโตในเดือนกันยายน และ การเติบโตมีแนวโน้มต่อเนื่องไปยังไตรมาสที่ 4/68 
ทางด้าน 9 เดือน ปี 2568 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทเท่ากับ 1,056.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยอัตรากำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัท 11.7% ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่กำไรก่อนต้นทุนทางการเงิน ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) จำนวน 2,242.3ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมี EBITDA margin 24.8% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเล็กน้อย จากการลดลงของต้นทุนบริการ ต้นทุนการส่งต่อ ค่าเช่า ค่าสาธารณูปโภค ค่าใช้จ่ายการในการส่งเสริมการขาย รวมไปถึงผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากการปรับปรุงตามมาตรฐานบัญชีฉบับที่ 29 ของการดำเนินงานโรงพยาบาลใน สปป.ลาว ส่วนรายได้รวมจำนวน 9,027.3 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีการเติบโตจากรายได้ผู้ป่วยโครงการประกันสังคม เพิ่มขึ้น 4.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากฐานต่ำเนื่องจากผลกระทบจากการปรับลดอัตราค่าบริการกลุ่มผู้ป่วยโรคซับซ้อน (RW>2) ในไตรมาสที่ 2/67 จำนวน 81.0 ล้านบาท อย่างไรก็ตามหากไม่รวมผลกระทบดังกล่าว ผู้ป่วยในโครงการประกันสังคมยังคงเติบโตได้ 1.6% จากการเติบโตของจำนวนผู้ประกันตนลงทะเบียนรวมไปถึงการให้บริการที่เพิ่มขึ้นในกลุ่ม 26 โรคเรื้อรัง การให้บริการตรวจโรคหยุดหายใจขณะหลับ การให้บริการฉีดวัคซีน และ การให้บริการทันตกรรม ในส่วนของรายได้จากผู้ป่วยทั่วไปลดลง 2.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งออกเป็นรายได้จากผู้ป่วยนอกลดลง 1% และ รายได้จากผู้ป่วยในลดลง 4.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากการลดลงของโรคระบาดตามฤดูกาลในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2568 ด้านแนวโน้มของการดำเนินงานในช่วงไตรมาสที่ 4/68 นั้น จะเป็นช่วงที่บริษัทได้รับปัจจัยสนับสนุนรายได้จากโรคตามฤดูกาลที่ต่อเนื่องมาจากช่วงไตรมาสที่ 3/68 เนื่องจากการเข้าสู่ฤดูฝนช้าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยทุกกลุ่มมีแนวโน้มเติบโตขึ้น รวมไปถึงการขยายฐานผู้ป่วยของคลินิกเฉพาะทางด้านเวชกรรมรังสีรักษา เกษมราษฎร์ อารี ไปยังกลุ่มผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าผ่านโครงการโรคมะเร็งรักษาทุกที่ (Cancer Anywhere) โดยสามารถเข้ารับบริการทางรังสีรักษาได้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป ทั้งนี้ คลินิกยังสามารถรองรับผู้ป่วยสิทธิประกันสังคม และ สิทธิข้าราชการ ผ่านการส่งต่อผู้ป่วยภายในเครือโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ได้เช่นกัน ประกอบกับ โรงพยาบาลในเครือทุกแห่งได้จัดกิจกรรมทางการตลาดและควบคู่กับการให้บริการเชิงรุก จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์โรงพยาบาล และ กิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่องสำหรับกลุ่มผู้ป่วยทั่วไปและผู้ป่วยในโครงการประกันสังคม เพื่อสร้างการรับรู้และการเติบโตของฐานผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง เช่น การติดตามและให้บริการตรวจโรคหยุดหายใจขณะหลับ การให้บริการผู้ป่วยกลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือด 7 หัตถการ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ภายใต้โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึงการรักษาของผู้ประกันตนในโครงการประกันสังคม นอกจากนี้ โรงพยาบาลยังมีการขยายศูนย์การแพทย์เฉพาะทางด้านความงามไปยังโรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค และ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของรายได้ในไตรมาสที่ 4 นี้เช่นกัน 
|