นักค้าเงิน ประเมินค่าเงินบาทวันนี้อ่อนค่าในกรอบ 32.30–32.55 บาทต่อดอลลาร์ หลังเฟดลดดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด แต่ “พาวเวล” ส่งสัญญาณยังไม่แน่ชัดว่าจะลดอีกในธ.ค. ขณะตลาดจับตาประชุม BOJ–ECB และการพบกันระหว่าง “ทรัมป์–สี จิ้นผิง” กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.30-32.55 บาท/ดอลลาร์ เงินบาทยังเผชิญแรงกดดันด้านแข็งค่าวานนี้พร้อมสกุลเงินอื่นในภูมิภาค อย่างไรก็ดี เงินบาทกลับมาอ่อนค่าลงในช่วงข้ามคืนหลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ลดดอกเบี้ยลง 25 bps ตามที่ตลาดคาด แต่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่าการปรับลดดอกเบี้ยครั้งต่อไปที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนธันวาคมยังไม่ใช่สิ่งที่แน่นอน ทำให้ตลาดลดความคาดหวังลง 
US treasury yields จึงปรับสูงขึ้นเร็ว ทั้งในบอนด์ระยะสั้น และระยะยาว ดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น จึงกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงมาพร้อมสกุลอื่นในภูมิภาค วันนี้จะมีการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่ง SCB FM คาดว่าจะคงดอกเบี้ยที่ 0.5% แต่หาก BOJ ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยชัดเจนในการประชุมครั้งถัดไปอาจทำให้เงินเยนกลับมาแข็งค่าขึ้นต่อได้ นอกจากนี้ ยังมีการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่ง SCB FM คาดว่าจะคงดอกเบี้ยที่ 2% และต้องจับตาการพบกันระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนในวันนี้ ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.40 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 32.27 บาท/ดอลลาร์ * ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนในทิศทางแข็งค่าขึ้นทดสอบแนวรับ 32.25 เมื่อวานนี้ จาก Fund flow ที่เข้าตลาดพันธบัตรไทยกว่า 24,639 ล้านบาท และอีกส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากโฟลว์ธุรกรรมทองคำ ที่มีการแห่ขายทองคำอย่างต่อเนื่อง หลังราคาทองคำปรับตัวลดลงจนหลุดโซน 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ประกอบกับเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าจากการทยอยปรับตัวลดลงของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ยังถูกกดดันเพิ่มเติมจากการทยอยแข็งค่าขึ้นของเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) หลุดโซน 152 เยนต่อดอลลาร์ * ผลการประชุม FOMC เดือนตุลาคม คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติ 10-2 ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมเมื่อคืนนี้ (29 ต.ค.) ตามการคาดการณ์ของตลาด เพื่อช่วยประคองเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังตลาดแรงงานสหรัฐฯ ชะลอตัวลงต่อเนื่อง นอกจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยแล้ว เฟดยังได้ประกาศว่าจะยุติการลดขนาดงบดุล หรือยุติการใช้นโยบาย "คุมเข้มเชิงปริมาณ" (Quantitative Tightening) หรือ QT ในวันที่ 1 ธ.ค. *เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 24,639 ล้านบาท และขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 830 ล้านบาท กรอบค่าเงินวันนี้และกลยุทธ์แนะนำ USD/THB 32.25 - 32.55 *แนะนำ ทยอยซื้อที่ระดับ 32.25 EUR/THB 37.50-37.90 * แนะนำ ทยอยซื้อที่ระดับ 37.50 JPY/THB 0.2100-0.2140 * แนะนำ ทยอยซื้อ 0.2100 GBP/THB 42.50- 42.90 AUD/THB 21.20- 21.60 
|