“เอกนิติ” ผนึก แบงก์ชาติ-สถาบันการเงิน ลุยโครงการปิดหนี้ไว ไปต่อได้ คาด โอนหนี้ต่ำแสนกว่า 1.6 ล้านบัญชี รวมภาระหนี้ประมาณ 43,600 ล้านบาท  เข้า AMC ได้ 1 ม.ค. 69

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง ร่วมกับ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และภาคสถาบันการเงิน ร่วมดำเนินโครงการแก้ปัญหาหนี้เสียผ่านกลไกการซื้อหนี้รายย่อยของบริษัทบริหารสินทรัพย์ (Asset Management Company หรือ AMC) ภายใต้ “ปิดหนี้ไว ไปต่อได้” โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ ลูกหนี้รายย่อยที่มีภาระหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ทุกประเภทสินเชื่อกับผู้ให้บริการสถาบันการเงินทุกแห่งรวมกันไม่เกิน 100,000 บาทต่อราย ณ วันที่ 30 ก.ย. นี้

สำหรับระยะแรกจะครอบคลุมลูกหนี้ของธนาคารพาณิชย์และบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ 1.6 ล้านบัญชี หรือ 1.2 ล้านราย ภาระหนี้ประมาณ 43,600 ล้านบาท โดยบริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (SAM) จะรับซื้อหนี้ของลูกหนี้กลุ่มเป้าหมายข้างต้น เพื่อนำมาปรับโครงสร้างหนี้แบบผ่อนปรนเพื่อให้ลูกหนี้กลับมาจ่ายชำระหนี้ได้  โดยธปท.จะปรับยุทธศาสตร์ให้ SAM เป็นบริษัท บริหารสินทรัพย์เพื่อสังคม (Social AMC) ที่มุ่งเน้นช่วยแก้หนี้ให้ประชาชนโดยไม่มุ่งหากำไร ซึ่งในระยะต่อไปจะพิจารณาขยายให้ SAM รับซื้อหนี้จากผู้ให้บริการทางการเงินประเภทอื่นเพิ่มเติมด้วย

“ปัญหาหนี้ครัวเรือนอยู่กับสังคมไทยมานาน หากปล่อยเรื่อยๆ จะดึงชีวิตคนไทย ชีวิตคนในครอบครัวที่เป็นหนี้ และฉุดรั้งเศรษฐกิจไทยไม่ให้ขยายตัวได้ในอนาคต รัฐบาลถึงได้มีโครงการ Quick Big Win กระตุ้นสั้น ได้ผลยาว และกระจายตัว แม้ในเวลาจำกัด สามารถช่วยชีวิตคนไทยที่เป็นหนี้ได้ โดยการช่วยจะช่วยอย่างยั่งยืน กระจายตัวในหมู่มาก โครงการนี้เป็นโครงการเรือธง เสาที่2 ลดภาระหนี้ของประชาชน”นายเอกนิติ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ปัญหาหนี้ครัวเรือน ประชาชนที่มีหนี้ต่ำกว่า 100,000 ราย มีทั้งสิ้น 3.4 ล้านราย คิดเป็น 4.7 ล้านบัญชี เม็ดเงิน 120,000 กว่าล้านบาท หากไม่เร่งช่วยให้กลับมามีชีวิตที่ดีได้ จะกลายเป็นปัญหาของครอบครัว เศรษฐกิจไทย โครงการดังกล่าวนี้ จะไม่ใช่แค่ระยะสั้น ไม่ใช่การดึงหนี้ไปสู่ AMC แต่ต้องการให้มีชีวิตที่หายใจคล่องขึ้น เช่น การตัดหนี้ การลดหนี้ การยืดหนี้ให้สามารถมีลมหายใจได้มากขึ้น รวมถึงต้องการพัฒนาระบบที่กลับมาเป็นคนดี หากมีวินัย

ส่วนความคืบหน้าของ AMC ภาคเกษตร ขณะได้หารือกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เรียบร้อยแล้ว ซึ่งขนาดจะเล็กกว่าโครงการนี้ โดยสาเหตุที่ ธ.ก.ส.ไม่ได้อยู่ในโครงการนี้ด้วย เนื่องจากลักษณะโครงสร้างหนี้มีความแตกต่างกัน โดยธ.ก.ส.หนี้จะมีส่วนฤดูกาลเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ลักษณะการปรับโครงสร้างหนี้จึงมีความแตกต่างกัน ดังนั้นจึงจะมีการตั้ง AMC ของธ.ก.ส.เอง โดยเม็ดเงินจะประมาณหมื่นล้านบาท แต่ช่วยเงินได้หลักล้านบาท

นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหาหนี้ครัวเรือนเป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง หากไม่แก้ไขจะเหนี่ยวรั้งเศรษฐกิจของประเทศ และที่สำคัญจะกระทบชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน หนี้ครัวเรือนแม้จะลงมาอยู่ที่ 87% แต่ยังอยู่ในระดับสูง โดยโครงการนี้ เป็นโครงการที่ทุกภาคส่วนเห็นความสำคัญและต้องเร่งแก้ไขปัญหา โดยมีเป้าหมาย คือ ลูกหนี้ NPL ของลูกหนี้ธนาคารพาณิชย์ โดยใช้แหล่งเงินจากการลดเงินนำส่งกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) ที่ปีนี้ลดลงมาอยู่ที่ 0.23%

“SAM จะถูกเปลี่ยนบทบาท มุ่งหวังช่วยคน 1.6 ล้านคน มาเป็นหนี้ปกติให้ได้มากที่สุด ซึ่งคาดหวังว่าจะมีคนปิดจบหนี้ได้ปกติอย่างน้อย 30-50%  โดยปรับโครงสร้างหนี้จะผ่อนปรนมาก ค่าธรรมเนียมที่ค้าง ดอกเบี้ยผิดนัดที่ค้างอยู่ จะยกให้ทั้งหมด จะมีการสนับสนุนในเรื่องนี้ ส่วนเรื่องเครดิตบูโร หากลูกค้าเข้ามา จะเป็นลูกหนี้ปกติทันที ถ้าจะผ่อนเป็นงวด จะเป็นรหัส 16 เมื่อเริ่มผ่อน และเป็นรหัส 11 ทันทีเมื่อผ่อนครบปิดจบหนี้”นายวิทัย กล่าว

นายวิทัย กล่าวว่า ลูกหนี้ที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับการปรับโครงสร้างหนี้แบบผ่อนปรนมากกว่าปกติ เพื่อลดภาระหนี้ เช่น ยกเว้นดอกเบี้ยคงค้างทั้งหมดและค่าธรรมเนียม ลดยอดเงินต้นบางส่วน เป็นต้น ทำให้ลูกหนี้สามารถกลับมาจ่ายชำระได้และปิดจบหนี้ได้เร็วขึ้น รวมทั้งกลับมามีประวัติการชำระหนี้ในเครดิตบูโรที่ดีขึ้นและมีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้อีกครั้ง โดยมี 2 มาตรการ ประกอบด้วย

1.จ่ายปิดจบ ให้ลูกหนี้จ่ายชำระหนี้บางส่วนเพื่อปิดจบหนี้ในทันที

2.ผ่อนชำระหนี้เป็นงวด ให้ลูกหนี้ผ่อนชำระเป็นระยะเวลาสูงสุดถึง 3 ปี และจะได้รับการยกเว้นดอกเบี้ยเงินกู้ในระหว่างที่เข้าร่วม

สำหรับมาตรการนี้ จะเป็นมาตรการครั้งนี้ จะดำเนินการเพียงครั้งนี้ ซึ่งคาดว่าจะลงนามสัญญาโอนหนี้ในช่วงเดือน ธ.ค. 2568 และโอนกรรมสิทธิ์หนี้ไป AMC วันที่ 1 ม.ค.2569 วันที่ 5 ม.ค. 2569 ลูกหนี้ติดต่อเจ้าหนี้เดิม หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่เจ้าหนี้ / SAM / ธปท. และตั้งแต่เดือน ก.พ. ปีหน้า  SAM หรือ ผู้ที่ได้รับมอบหมายจาก SAM เริ่มทยอยติดต่อกลับลูกหนี้

นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL กล่าวว่า ในการแก้ไขปัญหาหนี้เสีย ผ่านกลไก AMC เพื่อช่วยลูกหนี้รายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ ให้สามารถกลับมาตั้งหลักทางการเงินได้อีกครั้ง ที่ผ่านมาไทยเผชิญกับหนี้ครัวเรือนสูง โดยเฉพาะหนี้ที่ไม่มีหลักประกัน ลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด ทั้งที่มีเจ้าหนี้รายเดียว หรือ หลายราย ถูกจำกัดโอกาสทางเศรษฐกิจ ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อใหม่ได้ สถานการณ์นี้ไม่กระทบความเป็นอยู่เท่านั้น แต่ยังกระทบต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจโดยรวมด้วย

ทั้งนี้ สมาคมธนาคารไทย และธนาคารสมาชิก มองว่า การแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน คือภารกิจร่วมกัน จึงร่วมกับรัฐบาล ธปท. ในช่วงที่ผ่านมาในการมุ่งรักษาบ้านและรถ เป็นปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีพ และวันนี้ขยายความช่วยเหลือถึงลูกหนี้ที่ไม่มีหลักประกัน

โดยมีจุดมุ่งหมาย คือ ช่วยลูกหนี้ที่ตั้งใจชำระหนี้เริ่มต้นใหม่ ลดภาระหนี้ ปรับประวัติให้ดีขึ้น เปิดทางให้กลับเข้าสู่สินเชื่อในระบบได้ โดยแหล่งเงินทุนมาจากเงินส่วนเหลือจากโครงการคุณสู้เราช่วย และเงินของ AMC เอง ซึ่งถือเป็นตัวอย่างที่ดีของการร่วมมือของภาครัฐและเอกชน และไม่ก่อให้เกิด Moral Hazard ในระยะยาวด้วย